“พาณิชย์” เผยข้าวไทยเป็นขาขึ้นหลังระบายสต๊อกออกเกือบหมด ล่าสุดขายไปแล้ว 13.89 ล้านตัน มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท เผยราคาข้าวเปลือกขยับขึ้นถึงตันละ 8,700 บาท ราคาส่งออกข้าวขาว 5% ตันละ 470 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิตันละ 793 เหรียญสหรัฐ คาดทั้งปีส่งออกทะลุ 10 ล้านตัน พร้อมตอบโต้พวกบิดเบือนทำชาวนาเข้าใจผิด ยันรัฐบาลดูแลราคาข้าวได้ดีแม้ไม่มีจำนำ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดข้าวไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้ระบายสต๊อกข้าวออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดระบายออกไปได้แล้ว 13.89 ล้านตัน มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท โดยยังเหลือข้าวที่ระบายเพื่อการบริโภคได้อีกเพียง 1.6 แสนตัน และอีก 2.7 ล้านตันเป็นข้าวที่ต้องระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คนบริโภคและเข้าอุตสาหกรรม ทำให้แรงกดดันต่อตลาดข้าวไม่มีอีกต่อไป ซึ่งเห็นได้จากทิศทางราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาข้าวเปลือกในประเทศ และราคาข้าวส่งออก
ทั้งนี้ ราคาข้าวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา พบว่าราคาข้าวเปลือกสูงสุดอยู่ที่ตันละ 8,700 บาท ข้าวสาร 5% ราคาตันละ 13,900-14,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 22,600-22,700 บาท และราคาส่งออกข้าวขาว 5% ตันละ 470 เหรียญสหรัฐ และข้าวหอมมะลิตันละ 793 เหรียญสหรัฐ
ทางด้านการส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนกว่า ไทยส่งออกได้เกิน 5 ล้านตันแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และประเทศสำคัญที่นำเข้าข้าวอย่างฟิลิปปินส์ และอิหร่านก็เริ่มหันมาซื้อข้าวมากขึ้น ส่วนจีนก็มีแนวโน้มที่จะเจรจาส่งมอบข้าวในส่วน 1 แสนตันที่ 5 ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีต่อการส่งออกข้าวไทย และมั่นใจว่าการส่งออกข้าวปีนี้น่าจะทำได้ 10 ล้านตันแน่นอน
นางอภิรดีกล่าวอีกว่า ได้มีความพยายามในการบิดเบือนข้อมูลตลาดข้าวไทยเกิดขึ้นอีก โดยการให้ข้อมูลผิดๆ แก่เกษตรกร มีการนำข้อมูลที่รัฐบาลไม่ใช่วิธีการจำนำในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวมาพูดให้เกิดการเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินการของรัฐบาลตั้งแต่ยกเลิกการรับจำนำข้าวสามารถดูแลราคาข้าวให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ทิศทางราคาข้าวในตลาดโลกจะลดต่ำลง แต่เกษตรกรก็ยังขายข้าวได้คุ้มกับต้นทุนการผลิต เพราะรัฐบาลเข้าไปช่วยดูแลด้านต้นทุนที่เกี่ยวกับปัจจัยการผลิต ทั้งปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และยังส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนด้วยการปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ และดึงโรงสีเข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวไปทำการเกษตรอย่างอื่นทดแทน ทั้งการเลี้ยงกระบือ โคเนื้อ แพะ ทำนาหญ้า ปลูกพืชผัก และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นกว่าการเพาะปลูกข้าว
ส่วนประเด็นการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ยืนยันว่ารัฐบาลได้ให้ตัวเลขที่เป็นข้อเท็จจริง เพราะผลจากการรับจำนำข้าวในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง แม้จะขายข้าวได้ในราคาตลาดก็ทำให้เกิดผลการขาดทุนเกิดขึ้น อีกทั้งข้าวที่เก็บรักษามาเป็นระยะเวลานาน ทำให้คุณภาพข้าวและราคาข้าวลดลงตามระยะเวลาที่เก็บรักษา