“ซานตาเฟ่” จ่อเวียดนามลุยสเต๊ก สยายปีกตลาดอาหารญี่ปุ่นปี 61

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซานตา เฟ่ สเต๊ก” เปิดเกมรุกตลาดสเต๊ก 8,000 ล้านบาท เผย 3 ภารกิจหลักในปี 61 “เข้าตลาดหุ้น-สร้างครัวกลาง-รุก ตปท.-เปิดแบรนด์ใหม่” ยอมรับปีนี้รายได้ต่ำเป้าได้แค่ 1,500 ล้านบาท โตแค่ 13%

นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารซานตา เฟ่ สเต๊ก เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนภายในปี 2561 จะดำเนินการ 3 เรื่องหลัก คือ 1. การนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนในการขยายธุรกิจ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาสภาพเศรษฐกิจและความเหมาะสมในขณะนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ก็มีกองทุนจากต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นสร้างความแข็งแกร่งด้านสถานะทางการเงินแล้ว

2. การเตรียมสร้างครัวกลางเป็นของตัวเอง คาดว่าใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 3 ไร่ ขณะนี้มองหาทำเลที่เหมาะสมอยู่ จากเดิมที่ผ่านมาบริษัทฯ ใช้ซัปพลายเออร์จัดหาส่งวัตถุดิบเป็นหลัก แต่ในอนาคตจากการที่มีแผนการขยายสาขาและขยายธุรกิจมากขึ้นนั้นจึงต้องดำเนินการเอง และ 3. การขยายธุรกิจไปต่างประเทศที่จะเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งปีนี้ได้จดลิขสิทธิ์แบรนด์ ซานตา เฟ่ สเต๊ก ไปแล้วใน 8 ประเทศกลุ่มเออีซี ยกเว้นสิงคโปร์กับบรูไน เบื้องต้นมองที่ประเทศเวียดนามก่อน คาดว่าจะสรุปได้ปลายปี 2560 ซึ่งมีการเจรจากับผู้ที่สนใจอย่างน้อย 3 ราย มีทั้งที่เป็นแลนด์ลอร์ด กลุ่มทุนร้านอาหาร และ 4. การเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่**

นายสุรชัยกล่าวด้วยว่า ในช่วง 2 ปีนี้ก็ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในเชิงรุกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการปีนี้ (2559) ทำได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีที่แล้วทำได้ 1,300 ล้านบาท แต่ปีนี้ยังต่ำเป้าหมายอยู่จากเดิมที่ตั้งไว้เติบโต 40% หรือมีรายได้รวม 1,800 ล้านบาท แต่เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี และการเปิดสาขาใหม่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะหาทำเลที่เหมาะสมไม่ได้และศูนย์การค้าหลายแห่งก็ชะลอการเปิดโครงการออกไป โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิด 20 สาขา แต่เปิดได้เพียง 12 สาขาเท่านั้น ขณะนี้มีรวม 90 สาขา

ขณะที่การใช้จ่ายของลูกค้าที่เข้าร้านปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 175 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยปีนี้ทำบัตรสมาชิกใหม่จำหน่ายแค่ 25,000 ใบ ซึ่งขายหมดแล้ว และคาดว่ากลางปีหน้าจะเปิดขายอีก 20,000 ใบ ราคาสมาชิก 99 บาท ขณะที่ปีที่แล้วเปิดขาย 1 แสนใบ ราคา 199 บาท

สำหรับปี 2560 วางแผนจะลงทุนรวม 280 ล้านบาท แบ่งเป็น งบ 150 ล้านบาท ใช้ลงทุนสาขาใหม่ 21 สาขา แบ่งเป็นของบริษัท 7 สาขา และของแฟรนไชส์ 14 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 5 สาขา ส่วนงบอีก 130 ล้านบาท เป็นงบทางด้านการตลาด สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ กิจกรรม และทางด้านโซเชียลมีเดีย ออนไลน์ ซึ่งออนไลน์จะใช้มากขึ้นเป็น 10 ล้านบาท จากปีนี้ใช้ไม่ถึง 3 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2560 ตั้งเป้าหมายเติบโต 15-20% หรือมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท โดยมาจาก 1. การผลักดันยอดขายสาขาเดิมให้เติบโต 7% การขยายสาขาใหม่ การจัดแคมเปญต่างๆ และการออกเมนูใหม่เฉลี่ย 2 เดือนต่อครั้ง ที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 24% จากปีนี้มีส่วนแบ่ง 20% และตั้งเป้าหมายรวมอีก 5 ปีจากนี้จะมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท สัดส่วนในไทย 90% และในต่างประเทศ 10%

นายสุรชัยกล่าวด้วยว่า ตลาดรวมสเต๊กในไทยมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท เติบโต 20% มากกว่าตลาดอาหารโดยรวมที่โตเพียง 10% เท่านั้น แบ่งเป็น สเต๊กในศูนย์การค้าและที่เป็นแบรนด์เชน 4,000 ล้านบาท และสเต๊กทั่วไปอีก 4,000 ล้านบาท โดยในแง่ยอดขาย มีซิซซ์เล่อร์เป็นผู้นำตลาด ส่วนซานตา เฟ่ สเต็ก อันดับสองมีแชร์ 20% แต่หากมองในแง่จำนวนสาขา ซานตา เฟ่ สเต็ก เป็นผู้นำตลาดด้วยจำนวน 90 สาขา ซึ่งตลาดสเต๊กยังเป็นประเภทอาหารที่เติบโตดีเป็นอันดับที่สองรองจากอาหารเกาหลี ซึ่งมากกว่าอาหารไทย และอาหารญี่ปุ่น