xs
xsm
sm
md
lg

สมอ.จ่อปรับมาตรฐานเหล็กรับลงทุนรถไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สมอ.” เตรียมปรับมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อยให้สอดรับกับความต้องการใช้เหล็กที่ต้องการมาตรฐานสูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะงานก่อสร้างรถไฟฟ้าหลังความต้องการทยอยเข้ามาเพิ่มมากขึ้นตามการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายของรัฐบาล ล่าสุด กมอ.เคาะอนุมัติให้มิลล์คอนฯ ผลิตเหล็กฯ ตามมาตรฐาน ASTM ป้อนทำรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต)

นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) ว่า ขณะนี้ สมอ.อยู่ระหว่างการศึกษาปรับปรุงมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อย ให้สอดรับกับความต้องการใช้เหล็กที่ต้องการมาตรฐานสูง โดยเฉพาะเหล็กที่จะรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเร่งลงทุนในหลายโครงการเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

“มาตรฐานเหล็กของไทยนั้นได้มีมาตรฐานบังคับใช้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เหล็กของเราจะมุ่งเน้นการใช้ในการก่อสร้างอาคาร โรงงาน บ้านเรือนมากกว่า และระยะหลังมีความต้องการใช้เหล็กที่มีคุณภาพสูงกว่าและต่างไปจากมาตรฐานที่กำหนด ดังนั้นเรากำลังจะปรับปรุงส่วนนี้โดยจะใช้มาตรฐานจากต่างประเทศเทียบเคียง” นายพิสิฐกล่าว

สำหรับการประชุม กมอ. ล่าสุดได้เห็นชอบให้บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน )ทำผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อยตามมาตรฐาน ASTM ซึ่งเป็นของสหรัฐอเมริกาจำนวน 700 ตันที่ต่างไปจากมาตรฐาน มอก. 24-2548 มาตรา 20 ทวิเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปประกอบเป็นชิ้นงาน Post-Tensioning Bar Tendons ใช้เป็นโครงสร้างในการผลิตชิ้นส่วนคานคอนกรีตในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต)ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การอนุญาตดังกล่าวเป็นการเฉพาะคราว โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ ผู้รับอนุญาตจะต้องทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตามที่ได้อนุญาตภายในระยะเวลา 5 วันทำการ ต้องควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานต่างประเทศที่อ้างถึงและจะต้องให้ สมอ.ตรวจสอบได้ ต้องแจ้งแผนการผลิต และสถานที่เก็บผลิตภัณฑ์ให้ สมอ.ทราบเป็นหนังสือล่วงหน้าก่อนทำไม่น้อยกว่า 3 วัน และต้องแยกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ให้ปะปนกับเหล็กที่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐาน มอก. เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการวิชาการรายสาขารองรับการดำเนินงานพัฒนามาตรฐานเพิ่มเติมอีก 4 คณะ ได้แก่ 1. คณะที่ 73 ว่าด้วยมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะต้องสอดรับการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการจัดการสารปรอท 2. คณะว่าด้วยระบบขนส่งทางรางเพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล 3. คณะ 11 ว่าด้วยไฟฟ้าส่องสว่างที่มีการปรับปรุงไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสาขาอื่นๆ เนื่องจากสาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีประเภทสินค้าจำนวนมาก และ 4. คณะไฟฟ้ากำลังและสายไฟฟ้า ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านไฟฟ้า
กำลังโหลดความคิดเห็น