xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” โชว์แผนปั๊มส่งออกปี 60 โต 3% รุกถกคู่ค้าร่วมมือเศรษฐกิจ ตั้งตัวแทนช่วยขาย ดึงบิ๊กเอกชนพาเจาะตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” มั่นใจส่งออกปี 60 โตตามเป้า 3% หลัง IMF ประเมินเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าฟื้นตัว เตรียมอัดกิจกรรมขยายตลาดเพียบ ทั้งการจับเข่าคุยคู่ค้าร่วมมือค้าขาย ตั้งตัวแทนการค้าทำตลาดในประเทศเป้าหมาย พร้อมดึงบิ๊กเอกชนเป็นที่ปรึกษา ช่วยทำแผนเจาะตลาดเป็นรายประเทศ

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 2560 ว่าจะขยายตัวที่ 3% เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าจะมีการขยายตัวได้เพิ่มขึ้นจากปีนี้ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้นจาก 3.1% เป็น 3.4% และเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ จะขยายตัวจาก 1.6% เพิ่มเป็น 2.2% ญี่ปุ่นจาก 0.5% เพิ่มเป็น 0.6% แต่ยูโรโซนโต 1.5% ลดจาก 1.7% ขณะที่จีนโต 6.2% ลดจาก 6.6% อินเดียโตเท่าเดิม 7.6% อาเซียนจาก 4.8% เพิ่มเป็น 5.1% ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือโตเท่าเดิมที่ 3.4% แอฟริกาใต้จาก 0.1% เพิ่มเป็น 0.8% ละตินอเมริกา จากติดลบ 0.6% เพิ่มเป็น 1.6% รัสเซีย และ CIS จากติดลบ 0.3% เพิ่มเป็น 1.4% ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ไทยส่งออกได้มากขึ้น

สำหรับกลยุทธ์ที่จะใช้ผลักดันการส่งออกซึ่งหวังผลในระยะสั้น ได้แก่ การทำพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เน้นผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจเป็นรายประเทศในเรื่องที่ไทย และประเทศนั้นๆ สนใจร่วมกัน ทั้งในเรื่องการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ จะแต่งตั้งตัวแทนทางการค้า (Trade Representative) ในประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงและมีเครือข่ายกว้างขวางของประเทศนั้นๆ ล่าสุดได้แต่งตั้งไปแล้วหลายประเทศ เช่น จีน, รัสเซีย เมืองวลาดิวอสตอก, เปรู, คาซัคสถาน เป็นต้น เพื่อเป็นตัวแทนขายสินค้าไทย ซึ่งการจ้างบุคคลเหล่านี้จะทำให้ไทยทราบถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทำให้ไทยผลิตสินค้าและส่งออกได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด

ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาในแต่ละภูมิภาค (Regional Advisor) ซึ่งเป็นภาคเอกชนไทยที่ทำการค้า การลงทุน และเชี่ยวชาญในภูมิภาคต่างๆ อย่างอาเซียน เป็นผู้บริหารจากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะช่วยทำการตลาดให้กับสินค้าไทยในอาเซียน, จีน เป็นผู้บริหารจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ในจีน ซึ่งจากการหารือกันเบื้องต้นมีแผนจะนำสินค้าไทยเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้าซูเปอร์ แบรนด์มอลล์ ของซีพีในจีน, สหภาพยุโรป เป็นผู้บริหารจากกลุ่มเซ็นทรัล เพราะมีการลงทุนในยุโรปหลายแห่ง ทั้งอิตาลี เดนมาร์ก, อเมริกา และอเมริกาเหนือ เป็นผู้บริหารจากบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือทียูเอฟ เพราะมีการลงทุนในสหรัฐฯ มาก และมีเครือข่ายผู้นำเข้ากว้างขวาง ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นนายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เพราะมีเครือข่ายอยู่มากในทั้ง 2 ประเทศ ส่วนตะวันออกกลาง เป็นนายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน), อินเดีย เป็นผู้บริหารจากเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) เป็นต้น

“กรมฯ เริ่มหารือกับที่ปรึกษาแต่ละภูมิภาคแล้ว คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะคุยได้ครบ และจะมีแนวทางการส่งเสริม ผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนของไทยในภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่หวังผลสำเร็จในระยะสั้น (Quick Win) และมีส่วนช่วยผลักดันให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปีหน้าขยายตัวได้ตามเป้าหมาย” นางมาลีกล่าว

ขณะเดียวกัน กรมฯ ยังจะเน้นสร้างภาพลักษณ์ของประเทศและสินค้าไทย โดยจะเจาะกลุ่มเป็นรายสินค้า เช่น สินค้าประมง ที่ไทยมีปัญหาแรงงาน หรือไก่สด ที่เกิดไข้หวัดนกระบาดในหลายประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทย ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจบริโภคมากขึ้น รวมทั้งจะเน้นประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเห็นว่าสินค้าไทยมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพราะผลิตด้วยใจ (Heart Made Quality) ทำให้ได้สินค้าที่ประณีต พิถีพิถัน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
กำลังโหลดความคิดเห็น