ทอท.คาดช่วง High Season สนามบินสุวรรณภูมิจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยสูงกว่า 173,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 26.40% และมีเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 965 เที่ยวบิน เผย 3 สายการบินรัสเซียเปลี่ยนจากเช่าเหมาลำเป็นบินประจำ และสายการบินจีนขอบินเพิ่ม 1 สาย ทอท.จัดกำลังเจ้าหน้าที่และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัย
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2559-วันที่ 25 มีนาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงตารางการบินฤดูหนาว ถือเป็นการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือช่วง High Season ของประเทศไทย โดยคาดว่าช่วง High Season ในปีนี้จะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินตามตารางการบินจะมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 173,523 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.40% และในส่วนของเที่ยวบินคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเที่ยวบินให้บริการรวมทั้งสิ้นประมาณ 141,855 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 965 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.52%
โดยมีสายการบินที่เปลี่ยนทำการบินจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) มาบินเป็นเที่ยวบินประจำเพื่อรองรับผู้โดยสารในช่วงเวลานี้จำนวน 3 สายการบิน ซึ่งเป็นสายการบินของประเทศรัสเซียทั้งสิ้น ได้แก่ สายการบิน Nordwind Airlines, สายการบิน Rossiya Airlines และสายการบิน Vim Airlines นอกจากนี้ยังมีสายการบินใหม่ที่ไม่เคยทำการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาก่อนมาขอเริ่มทำการบินในช่วงตารางการบินฤดูหนาวนี้จำนวน 1 สายการบิน ได้แก่ สายการบิน Lucky Air ของสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกันนี้ยังมีสายการบิน Flydubai ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสายการบิน US-Bangla Airlines ของประเทศบังกลาเทศ ที่ติดต่อขอทำการบินในช่วงเวลานี้เข้ามาด้วย
อย่างไรก็ตาม มีสายการบินที่แจ้งของดทำการบินในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบิน Delta Airlines ของสหรัฐอเมริกา และสายการบิน Raya Airways SDN BHD ของประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการรวมทั้งสิ้น 135 สายการบิน โดยแบ่งเป็น สายการบินประจำรับขนผู้โดยสารผสมสินค้าจำนวน 102 สายการบิน สายการบินประจำรับขนเฉพาะสินค้าจำนวน 9 สายการบิน และสายการบินที่ใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกับสายการบินอื่น (code share) จำนวน 24 สายการบิน
นายศิโรตม์กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ จึงได้เตรียมพร้อมด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการเดินทางสำหรับผู้โดยสาร เช่น การบริหารจัดการระบบจัดคิวรถแท็กซี่ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ, การให้บริการรถเช่าแบบขับเอง, การให้บริการ Limousine, การให้บริการรถตู้สาธารณะ
การให้บริการรถไฟฟ้า Airport Link ฯลฯ รวมทั้งได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารตามจุดต่างๆ โดยในส่วนของผู้โดยสารขาออกจะมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารใช้เครื่องเช็กอินอัตโนมัติ หรือ Common Use Self Service : CUSS ที่มีสายการบินจำนวน 15 สายการบินให้บริการอยู่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวใช้บริการที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ซึ่งหากผู้โดยสารเดินทางโดยสายการบินไทยภายหลังการใช้ระบบ CUSS แล้วจะสามารถนำกระเป๋าไปโหลดด้วยตนเองที่เครื่อง Common Use Bag Drop : CUBD บริเวณ Row D ได้อีกด้วย
นายศิโรตม์กล่าวต่อไปว่า สำหรับการให้บริการจอดรถยนต์นั้น นอกจากจะมีพื้นที่รองรับการให้บริการจอดรถที่อาคารและลานจอดรถยนต์ 1-4 ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการจอดรถได้ประมาณ 6,000 คันแล้ว ทสภ.ยังจัดเตรียมพื้นที่จอดรถสำรองบริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิไว้อีกด้วย ซึ่งสามารถรองรับการจอดรถได้กว่า 450 คัน รวมทั้งลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน A, C และ D ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้ประมาณ 2,154 คัน และหากเป็นช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องเกิน 3 วัน ทสภ.จะยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ซึ่งบริเวณนี้สามารถจอดรถได้กว่า 700 คัน โดยได้จัดเตรียมรถ Shuttle Bus สายพิเศษสำหรับวิ่งให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างบริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน C กับอาคารผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ซึ่งจุดจอดรถ Shuttle Bus จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 และผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 ประตู 5 โดยผู้ใช้บริการรถ Shuttle Bus ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ในช่วงที่เป็นเทศกาลวันหยุดยาว เช่น เทศกาลปีใหม่, เทศกาลตรุษจีน ฯลฯ ซึ่งจะมีผู้โดยสารเดินทางเป็นจำนวนมากนั้น จะมีการเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือระหว่างส่วนงาน ทอท. กับส่วนราชการ สายการบินและผู้ประกอบการ และอำนวยความสะดวกให้กระบวนการเดินทางของผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยภายในศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากพบอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกขัดข้องจะจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติโดยเร็ว รวมไปถึง ทสภ.ยังได้มีการประสานไปยังกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองให้เพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา
พร้อมจัดให้มีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกและตรวจเอกสารก่อนเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารสัญชาติไทยในการใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Channel) เพื่อให้เกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ จึงได้มีการประสานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เช่น สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ตำรวจท่องเที่ยว, สารวัตรทหาร ให้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่และเพิ่มความถี่ในการตรวจตราตามจุดต่างๆ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ หากผู้โดยสารต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการในด้านต่างๆ ภายใน ทสภ. สามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center หมายเลข 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง