“อมรินทร์พริ้นติ้ง” แบกไม่ไหว หลังประสบปัญหาขาดทุนติดต่อกัน 2-3 ปี ประกาศเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น ขายให้บริษัท “วัฒนภักดี” ของกลุ่มเสี่ยเจริญ ถือหุ้นในสัดส่วน 47.62% มูลค่ากว่า 850 ล้านบาท พร้อมเสนอผู้ถือหุ้นขออนุมัติผ่อนผันทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ผู้บริหารยันไม่มีแผนเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดเกือบ 43%
นางเมตตา อุทกะพันธุ์ ประธานกรรมการบริษัทฯ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2559 มีมติอนุมัติให้ดำเนินการเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้บริษัท วัฒนภักดี จำกัด โดยนายฐาปนะ สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 850 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าว ผู้ซื้อจะถือหุ้น 47.62% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
สำหรับสาเหตุของการเสนอขายหุ้นดังกล่าวนั้น เนื่องจากการที่บริษัทฯ ประสบภาวะผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity) ณ วันที่ 30 ก.ย. 2559 ของบริษัทมีอัตราที่สูงเท่ากับ 4.32 เท่า บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนที่จะได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้เพื่อการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจทีวีดิจิตอลที่อยู่ในช่วงของการเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งมีต้นทุนการดำเนินการที่สูง โดยใช้สำหรับการชำระค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล การชำระค่าบริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลรายเดือน การชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในดำเนินธุรกิจ เช่น การผลิตรายการโทรทัศน์ เป็นต้น
บริษัทฯ มีแผนการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนนี้ภายในต้นปี 61 ดังนั้น บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการต่างๆ ได้ตามที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ จากการที่ในปัจจุบัน ภาวะอุตสาหกรรมธุรกิจทีวีดิจิตอลมีการแข่งขันสูง บริษัทจึงเห็นว่าการที่บริษัทจะมีพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ที่มีความพร้อมในด้านเงินทุน และมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีสถานะทางการเงิน และสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย จะทำให้บริษัทได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการ และยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจได้
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่บุคคลในวงจากัดโดยกำหนดราคาเสนอขายที่มีส่วนลดเกินกว่า 10% ของราคาตลาดการจัดสรร และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ซื้อ โดยกำหนดราคาหุ้นที่มีส่วนลด 43.11% ซึ่งจะต้องได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น และจะต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อน
นอกจากนี้ จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) ในการนี้ผู้ซื้อจะส่งบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 3 คน และไม่มีแผนที่จะเพิกถอนหุ้นของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้ง ยังไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการบริหารจัดการ โครงสร้างองค์กร และโครงสร้างทางการเงินของกิจการอย่างมีนัยสำคัญ
กลุ่ม “เสี่ยเจริญ” ซื้อต่ำกว่าราคาบนกระดานเกือบ 43%
จากกรณีที่บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN ประกาศเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้บริษัท วัฒนภักดี จำกัด โดยนายฐาปนะ สิริวัฒนภักดี และนายประปณต สิริวัฒนภักดี ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 850 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าว ผู้ซื้อจะถือหุ้น 47.62% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นที่หุ้นละ 4.25 บาท นับเป็นราคาหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในกระดานหลักทรัพย์ที่วานนี้ (24 พ.ย.) ปิดการซื้อขายที่ 7.45 บาท หรือต่ำกว่า 3.20 บาท คิดเป็น 42.95 % ขณะที่ราคาซื้อขายวันนี้ (25 พ.ย.) อยู่ที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) ระบุในเว็บไซต์ของบริษัทว่า บริษัทเป็นผู้นำด้านธุรกิจโรงพิมพ์ ธุรกิจ content นิตยสาร งานแฟร์ สำนักพิมพ์หนังสือเล่ม รวมทั้งทีวีดิจิตอลช่อง “อมรินทร์ทีวี เอชดี 34” ประกาศเพิ่มทุนให้ บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ซึ่งมีนายฐาปน และนายปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อเสริมศักยภาพในการทำธุรกิจมีเดียครบวงจร สานต่อวิสัยทัศน์กลุ่มอมรินทร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ AMARIN กล่าวว่า การแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์มีการเปลี่ยนแปลง และธุรกิจดิจิตอลทีวีมีการแข่งขันสูง ทำให้บริษัทต้องมีการลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินกลยุทธ์ Omni-media ด้วยการเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยแต่ละธุรกิจมีความเกี่ยวเนื่อง และส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอลช่อง “อมรินทร์ทีวี HD34” ก็มีการเติบโตในแง่ rating อย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ ติด Top10 ของผู้ประกอบการทั้งหมด
“เมื่อได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจาก คุณฐาปน และ คุณปณต สิริวัฒนภักดี ซึ่งทั้งสองท่านมีประสบการณ์ในธุรกิจที่หลากหลายทั้งใน และต่างประเทศ จะทำให้องค์กรของเรามีความแข่งแกร่ง และมีศักยภาพในการแข่งขัน และดำเนินธุรกิจที่โดดเด่นยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติรายการเพิ่มทุนจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว ผู้ลงทุนใหม่จะยังคงสนับสนุนทีมงานเดิมเป็นผู้บริหาร และขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป เนื่องจากมีความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอยู่แล้ว และจะช่วยส่งผู้ทรงคุณวุฒิมาเป็นกรรมการ เพื่อเสริมทัพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเตรียมพร้อมรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ปัจจุบัน AMARIN มีทุนจดทะเบียน 220 ล้านบาท แบ่งเป็น 220 ล้านหุ้น โดยในการทำรายการครั้งนี้จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 420 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 200 ล้านหุ้น เพื่อจัดสรรให้แก่ บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ซึ่งจะทำให้ AMARIN ได้รับเงินเพิ่มทุนใหม่สำหรับต่อยอดทางธุรกิจประมาณ 850 ล้านบาท โดยนางระริน จะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และจะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าวในช่วงต้นปี 60