รฟม.เผยพิจารณาซองคุณสมบัติผู้รับเหมาสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) มูลค่าลงทุนกว่า 8 หมื่นล้าน “ช.การช่าง, ซิโน-ไทย, อิตาเลียนไทย, ซันยองเอ็นจิเนียริ่ง, ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง” ผ่านเกณฑ์ ลุยเปิดซองเทคนิคต่อทันที คาดพิจารณาเสร็จ ธ.ค.นี้ และคาดจะเปิดซองข้อเสนอราคาได้ผู้ชนะเดือน ม.ค. 60 และเซ็นสัญญา พ.ค. 60
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอและเปิดซองเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติ) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติ) การประกวดราคาฯ งานสัญญาที่ 1/ สัญญาที่ 2/ สัญญาที่ 3/ สัญญาที่ 4 และสัญญาที่ 6 ซึ่งปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอฯ ทั้งหมดได้ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกราย
จึงได้เปิดซองข้อเสนอซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) โดยเชิญผู้ยื่นซองข้อเสนอประกวดราคาฯ เข้าร่วมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและร่วมเป็นพยาน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 ให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคม 2559 จากนั้นจึงจะพิจารณาเปิดซองเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านราคา) ในเดือนมกราคม 2560 และตามแผนงานคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาว่าจ้างผู้รับจ้างงานโยธาภายในเดือนพฤษภาคม 2560
สำหรับผู้ยื่นข้อเสนอการประกวดราคาฯ งานสัญญาที่ 1/ สัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 ได้แก่ กิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE (ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) กิจการร่วมค้า SY-UN JOINT VENTURE (ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซันยองเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
สัญญาที่ 4 และสัญญาที่ 6 ได้แก่ CKST JOINT VENTURE (ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินและยกระดับ (สถานีใต้ดิน 10 สถานี สถานียกระดับ 7 สถานี รวม 17 สถานี) ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร และมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 80,118 ล้านบาท
