ผู้จัดการรายวัน 360 - “คาราบาวแดง” ขยับชั้นเป็นสปอนเซอร์หลักฟุตบอล EFL 3 ปี ทุ่มทุนกว่า 800-900 ล้านบาทปรับชื่อเป็น “คาราบาวคัพ” หวังใช้เป็นสปริงบอร์ดดันเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ลุยตลาดโลกอีกหมัด หวังระยะยาวชิงแชร์ 10% ในตลาดโลกอีก 10 ปี
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักฟุตบอลลีกคัพของอังกฤษ หรือ EFL Cup และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “คาราบาว คัพ” เป็นระยะเวลานาน 3 ปี (เริ่มฤดูกาลหน้าคือ 2017/2018, 2018/2019 และ 2019/2020) ด้วยงบลงทุนรวม 18 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 800-900 ล้านบาท กำหนดจ่าย 3 งวด ปีละครั้งคือ 5 ล้านปอนด์, 6 ล้านปอนด์ และ 7 ล้านปอนด์ในปีสุดท้าย ทั้งยังมีออปชันในการต่อสัญญาได้อีก 4 ฤดูกาล หรือ 4 ปีด้วย
การแข่งขันฟุตบอลลีกคัพของอังกฤษถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่อันดับ 3 ของเมืองผู้ดี รองจากพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ การชิงถ้วยลีกคัพจะมีสโมสร 92 ทีมเข้าร่วมแข่งขันคือ 20 ทีมจากพรีเมียร์ลีก และ 72 ทีมจากฟุตบอลลีกอื่นที่ต่ำกว่า
ในช่วงที่ผ่านมา “คาราบาว” เคยสนับสนุนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คือ สโมสรเชลซี และสโมสรเรดดิ้ง ทั้งยังจัดตั้งบริษัทผู้จัดจำหน่ายในโซนสหราชอาณาจักรและยุโรป สามารถทำรายได้เป็นอย่างดี ทำให้สินค้า “คาราบาวแดง” เป็นที่รู้จักมากขึ้น ดังนั้นการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลลีกคัพของอังกฤษในครั้งนี้จึงถือเป็นการนำแบรนด์ไทยบุกตลาดอังกฤษ ซึ่งจะส่งผลให้แบรนด์ “คาราบาวแดง” เป็นที่รู้จักในระดับสากลและเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่มีความมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดส่งออกโดยใช้สปอร์ตมาร์เกตติ้งเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ โดยถือเป็นครั้งแรกของสินค้าแบรนด์ไทยและอาจจะของเอเชียที่มีการใช้แบรนด์ไทยเป็นชื่อในการแข่งขันกีฬาในต่างประเทศ
นายเสถียรกล่าวอีกว่า ที่สำคัญยังจะช่วยให้การทำการตลาดโดยอาศัยกีฬาฟุตบอลเป็นสื่อมีความชัดเจน สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์คาราบาวแดงในเวทีระดับสากลและครอบคลุมมากขึ้น เพราะลีกดังกล่าวประกอบไปด้วยการแข่งขันระหว่าง 92 ทีมจากทั่วเกาะอังกฤษ โดยนับจากนี้จะเปลี่ยนชื่อเป็น “คาราบาว คัพ” ซึ่งจะช่วยให้การรับรู้แบรนด์ “คาราบาวแดง” เข้าถึงทุกพื้นที่ของประเทศอังกฤษ โดยพร้อมที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มเดียวกัน
การที่ “คาราบาวแดง” และ EFL จับมือเป็นพันธมิตรกันนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ “คาราบาวแดง” มีความเป็นสากลและโดดเด่นชัดเจนในระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเอื้อต่อการรับรู้ของ EFL ในตลาดอื่นๆ ที่กว้างขึ้นโดยเฉพาะอาเซียนอีกด้วย นอกเหนือจากชื่อ “คาราบาว คัพ” ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับประโยชน์ทางการตลาดและการค้าจากการเป็นแบรนด์สนับสนุนหลัก เพราะจะมีการนำโลโก้ของ “คาราบาวแดง” ไปปรากฏอยู่บนเสื้อของนักฟุตบอลทุกคนที่ลงแข่งขัน, ตั๋วเข้าชมทุกแมตช์, ป้ายโฆษณาในทุกสนามที่มีการถ่ายทอดสด, การประดับสนามเวมบลีย์ที่ใช้ในการแข่งขันรอบลึกๆ จนถึงนัดชิงชนะเลิศ, บอร์ดประกาศต่างๆ, แบ็กดร็อปที่ใช้ในการสัมภาษณ์ก่อนและหลังการแข่งขันทุกแมตช์ และอื่นๆ อีกมากมาย
“สปอร์ตมาร์เกตติ้งคือกลยุทธ์ที่เราใช้บุกตลาดโลก โดยมุ่งเน้นที่ฟุตบอลเป็นหลักอย่างเดียวในขณะนี้ แต่ถึงขั้นไปซื้อทีมสโมสรฟุตบอลสักแห่งในอังกฤษ หรือยุโรปหรือไม่นั้นคงยังไม่คิดถึงขั้นนั้น แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายสโมสรติดต่อมาขายเราเหมือนกัน โดยจากนี้ไปบริษัทฯ จะมุ่งไปที่สหรัฐอเมริกาาและจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ขณะที่ยุโรปก็เดินหน้าไม่หยุด มีการเจรจากันอยูไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ เช่น โปแลนด์, อาเซอร์ไบจาน, กลุ่มสหภาพโซเวียตเดิม, ฝรั่งเศส, เยอรมนี เป็นต้น โดยเร็วๆ นี้ก็จะเดินทางไปบราซิลกับจีนเพื่อหาคู่ค้าอย่างเป็นทางการ” นายเสถียรกล่าวเสริม
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของ “คาราบาวแดง” ที่ทำตลาดกว่า 30 ประเทศทั่วโลกอยู่ที่ 30% ของรายได้รวม โดยมีตลาด CLMV ใหญ่ที่สุด แต่คาดว่าในอีก 3 ปีจากนี้ไปสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะขึ้นมาเป็น 50% เท่ากับในประเทศ เพราะตลาดในประเทศไทยเติบโตไม่ค่อยมากและมีข้อจำกัดในการทำตลาดมาก
สำหรับตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่มีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทนั้น ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา “คาราบาวแดง” สามารถทำยอดขายเติบโตถึง 12% สวนกระแสตลาดซึ่งโตติดลบ 1% จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ขณะที่ตลาดต่างประเทศเครื่องดื่มชูกำลังถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย และยังถือเป็นสินค้าที่มีความพรีเมียม โดยมีมูลค่ากว่า 3.3 ล้านล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา “คาราบาวแดง” มียอดขายเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 40%
“การเปิดตลาดในยุโรปโดยใช้ฟุตบอลเป็นสื่อในครั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะช่วยให้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และน่าจับตาอย่างยิ่ง ซึ่งจากการเข้ามาสนับสนุนลีกคัพเพื่อขยายตลาดในเกาะอังกฤษ คาราบาวแดงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด 10% ภายใน 10 ปี และเป็นสปริงบอร์ดไปยังตลาดยุโรปในประเทศอื่นๆ และสหรัฐอเมริกาต่อไป” นายเสถียรกล่าวในที่สุด