“กกพ.” โชว์ผลสำเร็จในภารกิจงานกำกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน หรือ “พลังงานสะอาด” ปัจจุบันรับซื้อแล้วจำนวน 9,175 เมกะวัตต์ จาก 7,216 โครงการ คงเหลือสัดส่วนตามแผน AEDP อีกจำนวน 7,603 เมกะวัตต์
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติอนุมัติหลักการในการเปลี่ยนมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในระบบ Adder เป็นระบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่น (ยกเว้นพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีการปรับไปก่อนหน้านี้) ปัจจุบันการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ตามข้อมูลล่าสุด ณ เดือน ต.ค. 59 มีการรับซื้อฯ แล้วจำนวน 9,175 เมกะวัตต์ (7,216 โครงการ) จากเป้าหมายการรับซื้อทั้งหมดจำนวน 16,778 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 - 2579 (AEDP) (ไม่รวมพลังน้ำขนาดใหญ่) ซึ่งคงเหลืออีกจำนวน 7,603 เมกะวัตต์” สำหรับโครงการต่างๆ ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้มีความคืบหน้าและสถานะ ดังนี้
โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 1 ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวน 67 โครงการ รวม 281.32 เมกะวัตต์ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟภ. และ กฟน.) ไปแล้วรวม 65 โครงการ และมียกเลิกตอบรับซื้อไฟฟ้า 2 โครงการ โดยทั้ง 65 โครงการอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าและใบอนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กกพ.ได้เร่งรัดการออกใบอนุญาตฯ อยู่ในขณะนี้เพื่อให้สามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ทันภายในกำหนดเดือน ธ.ค. 59
โครงการการรับซื้อไฟฟ้า FiT (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ระยะที่ 1 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี) ประเภทชีวภาพ ผู้ได้รับการคัดเลือก 1 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 2.0 เมกะวัตต์ ได้ลงนามสัญญาฯ (PPA) แล้วเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 59 อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าและใบอนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในเดือน ธ.ค. 61 สำหรับประเภทชีวมวลนั้น ผู้ได้รับการคัดเลือกจำนวน 4 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการทำสัญญาฯ (PPA) ภายใน 120 วัน หรือภายในวันที่ 23 ธ.ค. 59 ซึ่งต้องดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในเดือน ธ.ค. 61 (ข้อมูล ณ 26 ต.ค. 59)
ส่วนความคืบหน้าการรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรม ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก จำนวน 7 โครงการที่มีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมไม่เกิน 30.78 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตติดตั้งรวมไม่เกิน 41.83 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการทำสัญญาฯ (PPA) ภายใน 120 วัน หรือภายในวันที่ 25 ก.พ. 60 ซึ่งต้องดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในเดือน ธ.ค. 62 สำหรับการรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะชุมชน จำนวน 140 เมกะวัตต์ เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในเดือน ธ.ค. 62 นั้นจะประกาศรับซื้อได้ภายในเดือน พ.ย.นี้
“อย่างไรก็ตาม ทุกโครงการที่กล่าวมาข้างต้น กกพ.ได้ขอให้ผู้ได้รับคัดเลือกเร่งดำเนินการตามกระบวนการให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดเพื่อไม่ให้กระทบต่อวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) โดย กกพ.ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ และให้สามารถยื่นขอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าและใบอนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า (รง.4) ใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (อ.1) (ถ้ามี) และใบอนุญาตให้ผลิตพลังงานควบคุม (พค.2) ได้ทั้งที่สำนักงาน กกพ.ส่วนกลาง (กรุงเทพฯ) และสำนักงาน กกพ.ประจำเขต 13 เขตที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่” นายวีระพลกล่าว