“บางจาก” เร่งเจาะหลุมสำรวจพื้นที่ Mid-Galoc ก่อนตัดสินใจลงทุนผลิตเชิงพาณิชย์ หลังประเมินว่ามีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ10-13 ล้านตัน คาดผลิตเชิงพาณิชย์ได้ปี 62 ทดแทนแหล่งผลิต Galoc เดิม พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในภูมิภาคนี้
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเจาะหลุมประเมินพื้นที่ Mid-Galoc ในแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Galoc ประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 1 หลุม ใช้เงินลงทุน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 10-13 ล้านตัน หากพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพก็คาดว่าจะดำเนินการผลิตน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562 ซึ่งจะสอดรับช่วงเวลาที่แหล่ง Galoc ไม่คุ้มทุนการผลิตอีกต่อไป
ปัจจุบันแหล่ง Galoc มีการผลิตน้ำมันดิบลดน้อยลงเนื่องจากแรงดันในบ่อน้ำมันลดลง หลังจากผลิตมานาน 7-8 ปี โดยปีนี้คาดว่าจะผลิตน้ำมันดิบได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อปี ลดลงจากปีก่อนที่เคยผลิตได้ 2 ล้านบาร์เรล และปี 2560 คาดว่าจะผลิตน้ำมันดิบลดลงเหลือ 8 แสนบาร์เรลเท่านั้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 10-15% จากปีนี้ที่ต้นทุนปากบ่อในแหล่ง Galoc อยู่ที่ 38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาขายอยู่ที่ 45-46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อม และภาษี (EBITDA) เป็นบวกอยู่ และเชื่อว่าปีหน้าก็ยังมี EBITDA เป็นบวกเนื่องจากมีการลดต้นทุนโดยเพิ่มประสิทธิภาพและอาจจะย้ายสำนักงาน Nido มาอยู่ในไทยแทน
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า จากการประเมินความต้องการใช้น้ำมันในอีก 20-30 ปีข้างหน้ายังไม่ลดลง เพียงแต่จะหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติจะเติบโตมาก ดังนั้น บริษัทฯ จึงแสวงหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนในแหล่งผลิตปิโตรเลียมทั้งก๊าซฯ และน้ำมันดิบในไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติม พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลความเหมาะสมว่าควรจะเข้ายื่นประมูลในแปลงปิโตรเลียมบงกช และเอราวัณ ที่จะหมดอายุสัมปทานหรือไม่ โดยจะให้ความสำคัญเรื่องปริมาณสำรองและต้นทุนการผลิตควรอยู่ที่ 20-25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล