ผู้จัดการรายวัน 360 - ทีวีปรับคอนเทนต์นำเสนอรายการสดและรายการใหม่ลงผัง ก่อนครบการไว้อาลัย 30 วันในวันที่ 12 พ.ย. 59 “ช่อง 3” เน้นรายการสดตามติดเหตุการณ์บริเวณรอบพระมหาราชวัง “ช่อง 7” จับสารคดีลงนอน-ไพรม์ไทม์ “ช่องโมโน 29” ส่งภาพยนตร์ 3 เรื่องลงจอก่อนเข้าสู่เดือนที่ 2 ชี้โฆษณาหายและปรับเป็นไว้อาลัยแทน “ช่อง 8” ออนแอร์ผังปกติ เริ่มวันที่ 21 พ.ย. 59
นายบรรณสิทธิ์ รักวงษ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล “ช่องโมโน 29” บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเวลานี้ทางสถานีฯ ยังคงนำเสนอสารคดีเทิดพระเกียรติ สลับกับการรับสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (แม่ข่าย ช่อง สทท.11) ส่วนการตัดกลับสู่รายการปกติของสถานีฯ และการปรับผังรายการต่างๆ นั้นกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
เบื้องต้นได้มีการปรับในแต่ละคอนเทนต์ เช่น รายการข่าว มีการปรับให้นำเสนอเป็นข่าวกลางๆ หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวที่รุนแรง ส่วนภาพยนตร์ต่างๆ มีการปรับแนวโดยรวมไม่ให้มีความรุนแรงและนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวให้มากขึ้น โดยแต่ละวันจะมีภาพยนตร์ลงผัง 3 เรื่องจากที่ก่อนหน้านี้จะมีแต่สารคดีเป็นหลัก
“ในส่วนของการจัดกิจกรรมตลาดต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับทางสถานีฯ เช่น จัดดูหนังรอบพิเศษมูฟวี่ พรีวิว, คอนเสิร์ต และการจัดแข่งขันชกมวยไทยระดับโลก “ท็อปคิง เวิลด์ ซีรีส์ 2016” ของทางสถานีฯ ก็ได้เลื่อนการจัดงานออกไปก่อน ส่วนในเรื่องของโฆษณาตั้งแต่ช่วงแรกมาจนถึงปัจจุบันลูกค้าเข้าใจและเลื่อนการโฆษณาออกไปก่อน โดยเริ่มมีบางส่วนที่ปรับเนื้อหาโฆษณาให้เป็นการแสดงการไว้อาลัยแทน” นายบรรณสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทโมโน บรอดคาซท์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากปลุกปั้น “ช่องโมโน 29” จนมีเรตติ้งขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 0.5 เป็น 0.7 และยังครองอันดับ 4 อย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่น หลังจากนี้มั่นใจว่าด้วยคอนเทนต์ที่มีเข้ามาใหม่เรื่อยๆ จะทำให้เรตติ้งช่องขยับไปอยู่ที่เรตติ้ง 1.0 และมีโอกาสขึ้นเป็นอันดับ 3 ได้ไม่ยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากแต่ละสถานีโทรทัศน์เริ่มปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว จะเห็นว่าช่องหลักอย่าง “ช่อง 3” ซึ่งมีช่องทีวีดิตอลมากที่สุดถึง 3 ช่องได้ปรับคอนเทนต์และสัญญาณออกอากาศร่วมกัน นำเสนอคอนเทนต์เดียวกันทั้ง3 ช่อง โดยรายการหลักยังคงเป็นรายการข่าว เสริมด้วยรายการสด “ด้วยพระบารมีปกเกล้า” นำเสนอเหตุการณ์รอบสนามหลวง สลับกับละครเทิดพระเกีรยติ และรายการพิเศษเฉพาะกิจอีก 2-3 รายการ เช่น “ธ สถิตในดวงใจ” เป็นต้น โดยขณะนี้เริ่มเห็นลูกค้าลงโฆษณาร่วมไว้อาลัยเพิ่มมากขึ้นแล้ว
ส่วน “ช่อง 7” ถือเป็นอีกช่องที่เน้นนำเสนอรายการข่าวเป็นหลัก สลับกับสารคดีประเภท Documentary รวมถึงสารคดีเทิดพระเกียรติ ส่วนโฆษณาไว้อาลัยของลูกค้านั้นยังมีน้อยอยู่ แต่เชื่อว่าเมื่อครบ 30 วัน หรือภายหลังจากวันที่ 12 พ.ย. 59 เป็นต้นไปแต่ละสถานีฯ จะมีการปรับผังรายการกันอีกครั้ง รวมถึงจะมีรายการพิเศษเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพิ่มมาอยู่ในผังรายการหลักด้วย
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ขอความร่วมมือให้สถานีโทรทัศน์งดเผยแพร่รายการรื่นเริงเป็นเวลา 30 วันนั้น “ช่อง 8” ได้มีการปรับผังรายการเฉพาะกิจให้สอดคล้องกับอารมณ์เศร้าโศกของประชาชนไทยทั้งประเทศ โดยนำเสนอข่าวสาร ข่าวพระราชพิธี ข่าวพระราชกรณียกิจ ตลอดจนสารคดีและภาพยนตร์เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งลดโทนเสียงและสีให้เหมาะกับสถานการณ์ ปรากฏว่ามีผู้ชมให้ความสำคัญและสนใจติดตามรับชมรายการข้างต้นจำนวนมาก
ล่าสุดภาพรวมเรตติ้ง “ช่อง 8” ติดอันดับ 3 ของประเทศเนื่องจากผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชอบกลุ่มรายการข่าวเพราะดูและเข้าใจง่าย โดยเฉพาะ “คุยข่าวเช้า” เป็นต้นแบบรายการข่าวช่วงเช้าที่มีเวลาออกอากาศยาวที่สุดในประเทศในปัจจุบันที่นำเสนอข่าวครอบคลุมทุกประเด็นเจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 59 ให้แนวทางปฏิบัติเพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวี และวิทยุว่า สามารถนำเอารายการปกติมาออกอากาศได้นั้น บริษัทฯ จึงวางแผนปรับผัง “ช่อง 8” กลับเข้าสู่รายการปกติ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2559 นำเสนอคอนเทนต์ครบทุกมิติตอกย้ำจุดยืนของช่อง “เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์” ประกอบด้วย ละคร กีฬา ข่าว และวาไรตี โดยคำนึงถึงระดับความเหมาะสมของรายการที่จะนำมาออกอากาศ เพื่อเป็นการปรับบรรยากาศและความรู้สึกของประชาชนให้เป็นไปตามลำดับ
เริ่มด้วยวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2559 จะถ่ายทอดสดการแข่งขัน “UFC 205” มวยดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา รายการ UFC มวยกรง 8 เหลี่ยม เวลา 10.00 น. และวันเดียวกันช่วงเวลา 19.20 น. จะออกอากาศรายการ “8 แม็กซ์มวยไทย” ขณะที่อีก 3 รายการมวยจะออกอากาศตามวันและเวลาผังเดิม คือ “มวยไทยแบทเทิล ศึกค่ายชนค่าย” ทุกวันศุกร์ เวลา 18.20 น., “มวยมันส์ ซูเปอร์ MAX “ทุกวันศุกร์ เวลา 21.15 น. และ “เดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก” ทุกวันเสาร์ เวลา 19.20 น.
ทั้งนี้ ได้เติมคอนเทนต์ใหม่เป็นข่าวเพื่อจับกลุ่มทุกเพศทุกวัย และเกมโชว์แนวใหม่เพื่อจับกลุ่มครอบครัว ได้แก่ “ปากท้องต้องรู้” ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 16.00-16.45 น. เป็นการรายงานข่าวเศรษฐกิจให้รับชมได้ง่าย ออกอากาศครั้งแรกวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ส่วน “ENGLISH สะกิดต่อมฮา” ทุกวันเสาร์ เวลา 14.00-15.00 น. เป็นเกมโชว์ภาษาอังกฤษครั้งแรกในเมืองไทย ออกอากาศครั้งแรกวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2559
สำหรับเวลาไพรม์ไทม์ของทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ประกอบไปด้วย ละครและซีรีส์นานาชาติ เริ่มต้นที่เวลา 19.30-21.00 น. เป็นช่วงละครเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ได้แก่ “กระถินริมรั้ว” ทุกวันจันทร์ถึงอังคาร และ “เจ้าสาวเฉพาะกิจ” ออกอากาศทุกวันพุธถึงพฤหัสบดี ขณะที่เวลา 22.00-23.15 น. เป็นช่วง “ดิ เอทพิโซด” (The 8PISODE) เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ได้แก่ “Moonlight Drawn by Cloud รักเราพระจันทร์เป็นใจ” ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงอังคาร และ “Let's Fight Ghost วุ่นรักวิญญาณหลอน” ออกอากาศทุกวันพุธถึงพฤหัสบดี