“พพ.” โชว์ผลศึกษาพบพื้นที่ 3 ภาคเป็นพื้นที่ศักยภาพในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ มากกว่า 10 จังหวัด เผยสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเดือนตุลาคม 2559 - กันยายน 2560 มีกำลังการผลิตรวม 384.9 เมกะวัตต์
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ.ได้ทำการศึกษาพื้นที่ศักยภาพในการจัดทำโครงการไฟฟ้าพลังงานลม โดยผลศึกษาเบื้องต้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ 3 ภาคทั่วประเทศ ที่นับเป็นพื้นที่มีศักยภาพและมีประสิทธิภาพต่อการติดตั้งและผลิตกระแสไฟฟ้าจากลม จากการศึกษาความเร็วของลมที่ต้องมีค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 6 เมตรต่อวินาที ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และพื้นที่ดังกล่าวมีสายส่งที่สามารถรับซื้อไฟฟ้าได้
สำหรับพื้นที่จังหวัดในภาคต่างๆที่ถือได้ว่ามีศักยภาพสามารถติดตั้งกังหันผลิตไฟฟ้าจากแรงลมได้ประกอบด้วย 3 ภาค 1. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ บริเวณพื้นที่ภูเขา ช่องเขา และพื้นราบ ในจังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครราชสีมา เป็นต้น 2. ภาคตะวันตก ได้แก่ บริเวณพื้นที่ภูเขา ช่องเขา และยอดเขาในจังหวัดตาก กาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ 3. ภาคใต้ ได้แก่ บริเวณพื้นที่ภูเขา ช่องเขา และพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมได้นั้นจะต้องในพื้นที่ที่มีสายส่งรองรับ โดยขนาดตั้งแต่ระดับแรงดัน 22 กิโลโวลต์ ซึ่งจะสามารถรองรับโรงไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตน้อยกว่าหรือเท่ากับ 8 เมกะวัตต์ หากโรงไฟฟ้ามีขนาดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ต้องมีสายส่งระดับแรงดัน 33 กิโลโวลต์ และในส่วนของโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 10 เมกะวัตต์ จะต้องเชื่อมต่อกับแรงดันไฟฟ้าขนาด 115 กิโลโวลต์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายประพนธ์กล่าวว่า ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมของไทยในช่วงเดือนตุลาคม 2559 - กันยายน 2560 มีกำลังการผลิตและเตรียมแผนขายไฟฟ้าเข้าระบบ โดยรวมแล้วทั้งสิ้น 144 โครงการ คิดเป็นปริมาณกำลังไฟฟ้าติดตั้ง รวม 384.9 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟแล้วจำนวน 14 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 243.52 เมกะวัตต์ โครงการที่จะเตรียมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ปี 2559 จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 139.2 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมที่อยู่นอกสายส่ง (OFF GRID) จำนวน 128 โครงการ กำลังการผลิต 2.18 เมกะวัตต์