นายกสมาคมโรงสีข้าวไทยปฏิเสธกดราคารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่การรับซื้อข้าวเปลือกขึ้นอยู่กับราคารับซื้อข้าวสารจากผู้ส่งออก เผยหลังมีข่าวธนาคารลดการให้สินเชื่อ ทำให้ไม่สามารถช่วยชาวนาได้เต็มที่ ระบุกรรมการขอลาออกยกชุดหลังตกเป็นจำเลยสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น. วันนี้ (3 พ.ย.) นายมานัส กิจประเสริม นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมโรงสีข้าวฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยได้ปฏิเสธการกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนา และไม่ได้ร่วมมือกับฝ่ายการเมืองเพื่อหวังผลทางการเมือง
นายมานัสกล่าวว่า ราคาข้าวที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากราคาตลาดโลก โดยราคาที่โรงสีรับซื้อข้าวจากชาวนา จะใช้ราคาจากผู้ส่งออกซื้อข้าวจากโรงสีมาคำนวณราคารับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร และราคาที่เกษตรกรจะได้รับขึ้นอยู่กับความชื้น หากมีความชื้นสูงก็จะได้ราคาต่ำลง โดยราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าปัจจุบันความชื้น 15% อยู่ที่ตันละ 7,200-7,500 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 9,000-9,500 บาท
ทั้งนี้ ในการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา สมาคมฯ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเครื่องชั่งเพื่อความโปร่งใส และเสนอให้มีเครื่องชั่งกลางเพื่อให้ชาวนาได้ตรวจสอบก่อนมาจำหน่ายโรงสีด้วย
นายมานัสกล่าวว่า จากกระแสข่าวโรงสีกดราคารับซื้อข้าวเปลือก และจากราคาข้าวตกต่ำ ส่งผลให้ธนาคารลดการให้สินเชื่อกับโรงสี เพื่อลดความเสี่ยงของธนาคาร จนกระทบต่อผู้ประกอบการโรงสี ทำให้โรงสีเข้าช่วยเหลือชาวนาได้ไม่เต็มที่ แต่โรงสีก็ยังมีการรับซื้อข้าวจากชาวนามาโดยตลอด ไม่ได้มีการหยุดซื้อเหมือนพืชชนิดอื่นแต่อย่างใด
“ผมและสมาชิกโรงสีได้ร่วมมือกับรัฐบาล ให้ความซื่อสัตย์ ยุติธรรมกับชาวนา แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น คณะกรรมการบริหารสมาคมโรงสีข้าวไทยทั้งชุดจึงขอยุติบทบาทการทำงาน” นายมานัสกล่าว