ลำปาง - ผู้ว่าฯ ชูห้างฉัตรโมเดล : คนลำปางไม่ทิ้งกัน นำร่องช่วยชาวนา หนุนสหกรณ์เป็นแกนหลักรับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าตลาด ก่อนอบ-สี-บรรจุส่งขาย พร้อมขยายช่องทางเชื่อมตลาดชุมชน รวมถึงตลาดทุ่งเกวียน ปั้นให้เป็นของฝากแถวหน้าของจังหวัด
วันนี้ (2 พ.ย.) นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอห้างฉัตร ได้เข้าตรวจเยี่ยมที่โรงสีข้าวสหกรณ์ของสหกรณ์การเกษตรอำเภอห้างฉัตร ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โรงสีขนาดใหญ่ในรูปแบบสหกรณ์ของจังหวัด
นายธีรภัทร์ คำสม ผู้จัดการสหกรณ์ฯ รายงานว่า ขณะนี้สหกรณ์ได้รับซื้อข้าวเปลือกทั้งของสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป ในราคาตันละ 7,500 บาท จากนั้นก็จะนำไปผ่านกรรมวิธีอบ-สีข้าว แล้วบรรจุภัณฑ์ส่งขายตามออเดอร์ของชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย และแบ่งส่วนหนึ่งไว้ขายปลีกตามตลาดทั่วไปในพื้นที่ ซึ่งจะมีทั้งข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ-ข้าวไรซ์เบอรี่
หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบนาข้าวของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งพบว่าข้าวออกรวงและใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว พร้อมระบุว่าจะใช้โมเดลของ อ.ห้างฉัตร นำร่องช่วยเหลือชาวนา ในแนวทาง “คนลำปางไม่ทิ้งกัน” โดยจะอาศัยสหกรณ์การเกษตรเป็นหลัก ให้รับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงกว่าตลาดเล็กน้อย ถึงแม้จะได้กำไรเพียงน้อย แต่ก็ไม่ทำให้ขาดทุน และยังสามารถช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำได้ด้วย จากนั้นก็จะเพิ่มช่องทางการตลาดเชื่อมโยงตลาดชุมชน นำข้าวส่งขาย-ชูให้ข้าวเป็นของฝากของคนลำปาง
นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือไปยังนายชูชัย จันทร์สกาว ผู้จัดการตลาดทุ่งเกวียน ที่ถือว่าเป็นแหล่งขายของฝากชื่อดังของจังหวัด โดยเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยวมีเงินสะพัดหลายล้านบาท ให้ตั้งจุดขายข้าวของลำปาง แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการขายให้สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่จะนำข้าวมาวางขายช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ซื้อข้าวของคนลำปางไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือได้อีกด้วย
ด้าน พล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผบ.มทบ.32 ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอห้างฉัตร ก็เข้าตรวจเยี่ยมโรงสีข้าวแสงรุ่งเรืองทรัพย์ไพศาล จำกัด หมู่ที่ 3 บ้านแม่ฮาว ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อพบปะตรวจเยี่ยม-สอบถามขั้นตอนในการรับซื้อข้าวจากชาวนา
ทั้งนี้ พบว่ามีชาวนาต่างทยอยนำข้าวเปลือกมาขายกันอย่างต่อเนื่อง แต่มีจำนวนไม่มากนัก ขณะที่ทางโรงสี รับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ในราคากิโลกรัมละ 11.50 บาท ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ที่รับซื้อกิโลกรัมละ13-15บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียว กข.6 (ใหม่) กก.ละ 13 บาท ข้าวเปลือกเหนียว กข.6 (เก่า) กก.ละ12 บาท ข้าวเปลือกเหนียว (ดอ) กก.ละ 11 บาท และข้าวเปลือกจ้าวปทุม กก.ละ 8 บาท
กลุ่มชาวนาที่นำข้าวมาขายระบุว่า มีรายได้ลดลงเพราะต้นทุนสูง ทั้งค่าเช่าที่นา ซื้อปุ๋ย และอื่นๆ จึงอยากฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยเหลือชาวนาในส่วนนี้ด้วย อาจจะใช้วิธีช่วยเหลือเงินเป็นไร่ หรือประกันราคาข้าว เป็นต้น