“ทีวีบูรพา” เบนเป้าใหม่ สร้างรายได้ตลาดต่างประเทศ

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีวีบูรพา” ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ชูคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์งาน เน้นรับจ้างผลิตเพิ่ม พร้อมเจาะตลาดสารคดีต่างประเทศกระจายความเสี่ยง หวังปีหน้ารายได้กลับมาแตะ 215 ล้านบาท จากปีนี้ที่ความเสี่ยงรุมกระหน่ำทำรายได้ต่ำกว่าเป้า 5-8% คาดปิดได้ที่ 160 ล้านบาท

นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ประธานกรรมการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าการเกิดของทีวีดิจิตอลในเชิงปริมาณทำให้เกิดพื้นที่ให้คอนเทนต์รายการประเภทสารคดีมากขึ้น แต่ในเชิงคุณภาพ หรือตลาดสารคดีกลับลดลง บวกกับสถานการณ์มูลค่าสื่อมีเดียในปัจจุบันลดลงจากเดิม 4-5 เท่า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทำให้ “ทีวีบูรพา” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตคอนเทนต์สารคดีต้องมีการปรับตัวรับการแข่งขัน ทั้งในเรื่องโครงสร้างบริษัทและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ

ในส่วนของโครงสร้างบริษัทฯ นั้น ได้เปิดรับคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานมากขึ้นจากเดิมที่มี 3 หน่วยธุรกิจคือ 1. คอนเทนต์โปรดักต์ 2. มีเดีย และ 3. อีเวนต์ โดยแต่ละธุรกิจทำรายได้ในสัดส่วนประมาณ 30% กว่าเท่าๆ กัน โดยตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมามีการปรับเพิ่มเป็น 5 หน่วย คือ 1. คอนเทนต์โปรดักต์ ทำรายได้ 25% 2. มีเดีย 28% 3. IMC (Integrated Marketing Communication) 30-35% 4. ดิจิตอลมาร์เกตติ้งเซอร์วิส 10% และ 5. ตลาดต่างประเทศ 7%

ด้านนายชนวัฒน์ วาจานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ หลังจากนี้จะเน้นกระจายความเสี่ยงของรายได้ผ่านธุรกิจต่างประเทศ จากที่ผ่านมาจะเคยนำคอนเทนต์ไปขายบ้าง แต่หลังจากนี้จะเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ล่าสุดได้เข้าร่วมงาน Asian Side of the Doc ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ในวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย. 2559 พร้อมนำเสนอผลงานสารคดีชีวิตสัตว์ป่า โดย “ทีวีบูรพา” ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าเสนอโครงการต่อสถานีโทรทัศน์และนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก กับผลงานเรื่อง “Creed Crawly Superfood” ร่วมกับอีก 4 ผลงานที่พร้อมนำเสนอแก่นักลงทุนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

“ในช่วงที่ผ่านมาทีวีบูรพาเคยนำคอนเทนต์ไปขายยังต่างประเทศ ทำรายได้ประมาณ 0.5% ของรายได้รวม แต่หลังจากรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังในครั้งนี้ มองว่าในปี 2560 จะมีอัตราการเติบโตเป็น 7-10% หรือน่าจะได้เห็นเม็ดเงินจากต่างประเทศอย่างน้อยที่สุด 20 ล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะทำได้ถึง 40 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้จากตลาดต่างประเทศจะมาจาก 3 โมเดลธุรกิจ คือ 1. พิตโปรเจกต์ 10 ล้านบาท ในลักษณะรับจ้างผลิต มุ่งหาพันธมิตรมาร่วมผลิตมากขึ้น 2. บรอดคาสต์ 5 ล้านบาท กับคอนเทนต์สำเร็จรูป และ 3. ฟอร์แมตต่างประเทศ 5 ล้านบาท ซึ่งกำลังมีการเจรจากับพม่า กัมพูชา และลาว ในการนำฟอร์แมตรายการ “คนค้นฅน” และ “กบนอกกะลา” ไปผลิตเป็นคอนเทนต์โลคอลและออกอากาศในประเทศนั้นๆ

ส่วนตลาดในประเทศนั้น ปัจจุบันนอกจากมีรายการหลัก 2 รายการ คือ “คนค้นฅน” และ “กบนอกกะลา” ที่ออกอากาศทางช่อง 9 หลังจากนี้จะเน้นไปที่การรับจ้างผลิตรายการสารคดีป้อนให้ทีวีดิจิตอลอีกหลายช่องที่ดำเนินเรียบร้อยไปแล้ว เช่น ช่อง 7 และช่อง NOW 26 รวมถึงช่องอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 9 เป็นต้น โดยมองว่าจะทำให้รายได้รวมในปีหน้าจะมีรายได้รวม 215 ล้านบาท จากปีนี้ที่น่าจะปิดรายได้เพียง 160 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าประมาณ 10 ล้านบาท หรือ 5-8%