ผู้จัดการรายวัน 360 - ทีวีบูรพาปรับเกมสู้ศึกทีวีและโลกโซเชียล ผันตัวสู่ความเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์เต็มรูปแบบ ยึดกลยุทธ์ผลิตคอนเทนต์คู่พาร์ตเนอร์เป็นหลัก แย้มปีนี้ถูกจีบลงทีวีดิจิตอลอีก 2 ช่อง พร้อมต่อยอดรายได้สู่ออนไลน์ผ่านโมเดล 360 องศา คาดรายได้คอนเทนต์/ดิจิตอลเป็นสองหัวหอกใหม่สร้างรายได้หลังโฆษณาชะลอตัว มั่นใจปีนี้รับรายได้ร่วม 250 ล้านบาท จากปีก่อนหลุดเป้า 10% ทำได้เพียง 140 กว่าล้านบาท
นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ประธาน บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 นี้ยังคงเน้นจุดยืนความเป็นสื่อสีขาวและความรับผิดชอบต่อสังคม ชูความเชี่ยวชาญในการผลิตคอนเทนต์เชิงสารคดีเป็นหลัก และต่อยอดไปสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ รับการแข่งขันในปัจจุบัน หลังจากพบว่าปีที่ผ่านมาเม็ดเงินโฆษณามียอดลดลง จากสถานการณ์สำคัญในไตรมาสสี่และสถานการณ์ธุรกิจมีเดียที่อยู่ในช่วงขาลง
นายชนวัฒน์ วาจานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยจะให้ความสำคัญใน 2 ส่วนหลัก คือ คอนเทนต์ everywhare และพาร์ตเนอร์ จากเดิมที่รายได้จะมาจากมีเดียหรือรายได้จากโฆษณาเป็นหลัก หลังจากนี้จะมาจากคอนเทนต์เป็นหลักในการหารายได้แบบ 360 องศา ส่วนพาร์ตเนอร์นั้น จากที่เป็นลูกค้าซื้อสื่อโฆษณายกระดับความเป็นพาร์ตเนอร์ทำงานร่วมกัน หรือนำเสนองานด้วยกลยุทธ์ คือ ดรามาติก, เรียล, สตอรีเทลลิ่ง และอินสไปเรชัน
ส่งผลให้ปีนี้ในแง่ของคอนเทนต์ที่ยังมีโมเดลธุรกิจแบบเดิมอยู่เพียง 2 รายการ คือ ฅนค้นคน และกบนอกกะลา ที่ออกอากาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ซึ่งมีรายได้หลักจากการขายเวลาโฆษณา นอกจากนี้รายการที่เหลือจะเป็นรูปแบบรับจ้างผลิต หรือร่วมผลิตเป็นหลัก ซึ่งในปีนี้จะมี 1 รายการใหม่ คือ เซลฟี่โปรเจ็กต์ จำนวน 13 ตอน จะออกอากาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ แต่จะมีโมเดลคอนเทนต์ที่สามารถพัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ยังได้รับจ้างผลิตรายการสารคดีที่เตรียมออกอากาศทางทีวีดิจิตอลหลายช่อง เช่น ไทย wildlife ทางช่อง 7 หรือรายการ wildlife series ทางช่องnow26 รวมถึงอีก 2 รายการใหม่ที่จะลงในช่องทีวีดิจิตอลใหม่อีก 2 ช่องในปีนี้ด้วย นอกจากนี้ คอนเทนต์เดิมอย่าง ฅนค้นตน และกบนอกกะลา ยังนำไปออกอากาศทางกล่องพีเอสไอ, เจริญเคเบิล และทางช่อง new1 ด้วย รวมถึงนำเสนอคอนเทนต์ผ่านทางยูทูปและเฟซบุ๊ก เป็นต้น
“การดำเนินธุรกิจที่วางตัวเองเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ ส่งผลให้ปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนรวมกว่า 160-170 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 20 ล้านบาท มุ่งผลิตคอนเทนต์และหารายได้แบบ 360 องศา ทั้งผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ ป้อนให้กับพันธมิตรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มหน่วยงานภาครัฐ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนเทนต์แบบไวรัลมาร์เกตติ้ง นำเสนอเรื่องราวความดีต่างๆ ประชาสัมพันธ์หน่วยงานออกไป ทำให้ลูกค้าในกลุ่มไวรัลคอนเทนต์เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ โดยปีนี้จะมีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาเป็นลูกค้าอีกกว่า 10 ราย ซึ่งทางบริษัทพร้อมวางแผนการใช้สื่อโฆษณาให้ด้วยหากลูกค้าต้องการผ่านทางสื่อของบริษัทเอง ทั้งออนแอร์ ออนไลน์ เป็นต้น รวมถึงสื่อของพาร์ตเนอร์อย่างเว็บไซต์ต่างๆ ทั้ง สนุก ดอท คอม หรือ manager.co.th เป็นต้น หรือขายคอนเทนต์ไปต่างประเทศ นำเสนอคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น”
จากแผนการดำเนินงานที่วางไว้ ส่งผลให้ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ 250 ล้านบาท มาจาก 5 ส่วนธุรกิจ คือ คอนเทนต์ 80 ล้านบาท มีเดีย 70 ล้านบาท แคมเปญ IMC 80 ล้านบาท ดิจิตอล 10 ล้านบาท สินค้าและธุรกิจอื่นๆ 10 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของคอนเทนต์และดิจิตอลนั้นในปีหน้าเป็นต้นไปจะเป็นสองธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ ขณะที่ปีก่อนจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ต่ำกว่าเป้าไปราว 10% หรือทำได้เพียง 142.7 ล้านบาท ส่วนปีนี้ผ่านมาสองเดือนรับรู้รายได้แล้ว 100 กว่าล้านบาท จึงมองว่าทั้งปีน่าจะมีรายได้ตามแผนที่วางไว้