“พพ.” เตรียมเสนอ “สนพ.” ลุ้นของบสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 9.3 ล้านบาท ดำเนินโครงการส่งเสริมเลี้ยงปลาแสงอาทิตย์สำหรับชุมชน โดยมุ่งเน้นนำพลังงานแสงอาทิตย์ดูแลอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสม เพิ่มน้ำหนักปลาดุกช่วงฤดูหนาว
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ประมาณสัปดาห์หน้า พพ.เตรียมเสนอสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อของบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานวงเงินประมาณ 9.3 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมเลี้ยงปลาแสงอาทิตย์ (โซลาร์) สำหรับชุมชน โดยคาดว่าจะนำไปสู่วาระการพิจารณาจากคณะกรรมการกองทุนฯได้ประมาณเดือนธันวาคมนี้
“เราเห็นว่าโครงการนี้เคยมีการทดลองดำเนินการนำร่องศึกษามาแล้วซึ่งเป็นปลาดุกที่จังหวัดหนองคาย เลย และเชียงใหม่ พบว่าการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาต่อท่อเข้าบ่อเลี้ยงปลาดุกในช่วงฤดูหนาวทำให้ปลามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าปกติ 1.7 เท่าตัว เนื่องจากช่วงฤดูหนาวนั้นพบว่าปลาดุกที่ชาวบ้านเลี้ยงช่วงฤดูหนาวจะจำศีลไม่ค่อยกินอาหาร เมื่อทำให้อุณหภูมิน้ำมีความอบอุ่น ปลาจะหันมากินอาหารทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งโครงการนี้จะต้องรอให้บอร์ดกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติก่อน” นายประพนธ์กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเน้นส่งเสริมการเลี้ยงปลาดุกโดยวงเงิน 9.3 ล้านบาทนั้นจะนำมาจัดสรรช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ยื่นเสนอเข้ามาของบสนับสนุนรายละ 70% ของวงเงินลงทุนที่แท้จริง โดยคาดว่าจะดำเนินการส่งเสริมได้ประมาณ 15 ราย โดย พพ.จะทยอยดำเนินการซึ่งจะเน้นเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณเพราะสิ่งสำคัญจะต้องพิจารณาตลาดด้วยหากส่งเสริมมากอาจจะเกิดภาวะล้นตลาดได้
นอกจากนี้ พพ.ยังมีโครงการสนับสนุนการทำอุปกรณ์อบแห้งสำหรับพืชผลการเกษตร เช่น การทำโดมที่ใช้เทคโนโลยีโซลาร์สำหรับอบแห้งผลิตภัณฑ์การเกษตร เช่น กล้วยตา ลำไยอบแห้ง พริกอบแห้ง ที่ขณะนี้ได้รับความสนใจจากเกษตรกรจำนวนมากซึ่งโครงการนี้ได้รับงบประมาณดำเนินการแล้ว 19 ล้านบาท โดยจะคัดเลือกผู้ร่วมโครงการ 50 รายซึ่ง พพ.จะให้เงินสนับสนุน 35% ของต้นทุนทั้งหมดที่เหลือผู้ร่วมโครงการออกเอง คาดว่าแต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 แสนบาท
“โครงการต่างๆ เราก็จะมองในระดับชุมชนในการนำพลังงานไปลดต้นทุนการผลิต แต่ต้องยอมรับว่าพลังงานก็จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการยกระดับชุมชนเพราะหากต้นทุนลดต่ำได้แต่ตลาดไม่ดีก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ ทุกอย่างจึงต้องมองในมิติต่างๆ ควบคู่กันไป” นายประพนธ์กล่าว
