xs
xsm
sm
md
lg

พัทยาหวังเงินสะพัด 1 พันล้าน หลังยืดเวลาจอดเรือยอชต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(จากซ้ายไปขวา) นายริโก้ สเตเพิล ผู้จัดการฝ่ายการเช่าเรือ (Charter Manager) บริษัท โบ๊ท ลากูน ยอร์ชติ้ง จำกัด นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรมาบตาพุด และดร.ธีระชัย พิพธศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ร่วมแถลงข่าวยืนยันจัดงาน “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2016”
ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้จัดงาน “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2016” น้อมรำลึกกิจกรรมทรงโปรดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เดินหน้าจัดงานตามกำหนดการ 24-27 พ.ย. 59 โชว์เรือยอชต์หรูมูลค่า 20-400 ล้านบาท หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวทางทะเลพัทยา หลังด่านศุลกากรมาบตาพุดยืดเวลาให้เรือยอชต์ต่างชาติจอดได้ 18 เดือนจากเดิม 2 เดือน คาดเพิ่มจำนวนเรือจอดจากปีละ 15 ลำเป็น 100 ลำ พร้อมรายได้ 500-1,000 ล้านบาท

ดร.ธีระชัย พิพิธศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานแสดงเรือนานาชาติ “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2016” (Ocean Marina Pattaya Boat Show 2016) ระหว่างวันที่ 24-27 พ.ย. 59 ณ โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา ยอชท์ คลับ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะผู้จัดงานฯ ได้ร่วมประชุมก่อนสรุปผลว่าจะยังคงดำเนินการจัดงานตามกำหนดการเดิม เพื่อเป็นการรำลึกถึงกิจกรรมที่พระองค์ทรงโปรดและสร้างประวัติศาสตร์บนท้องทะเลอ่าวไทยหลังจากทรงชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภท OK ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 เมื่อปี 2510 โดยคณะผู้จัดงานฯ จะยังคงมีการแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจ แต่ยกเลิกกำหนดการกิจกรรมงานเลี้ยงและความบันเทิงต่างๆ เพื่อเป็นการน้อมแสดงความอาลัยพร้อมคนไทยทั่วประเทศ

การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 โดยแต่ละปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด ล่าสุดในปีนี้ใช้งบฯ ประชาสัมพันธ์ประมาณ 10 ล้านบาท พร้อมมีการจัดแสดงเรือยอชต์มูลค่า 20-400 ล้านบาทเป็นจำนวนมากกว่า 20 ลำ พร้อมทั้งมีผู้ประกอบการมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ เกี่ยวกับเรือยอชต์ และอื่นๆ รวม 85 บูท บนผืนน้ำและริมท่าจอดเรือรวมพื้นที่กว่า 2 หมื่น ตร.ม. โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 6.5-8 พันคน คิดเป็นคนไทย 65% ต่างชาติ 35% พร้อมสร้างเงินสะพัดทั้งภายในงานและหลังการจัดงานประมาณ 700-1,000 ล้านบาท โดยแต่ละปีที่ผ่านมามีการซื้อขายเรือยอชต์เฉลี่ยปีละ 7-10 ลำ

ดร.ธีระชัยกล่าวด้วยว่า “โอเชียน มารีน่า ยอชท์ คลับ พัทยา” ถือเป็นท่าจอดเรือยอชต์เพียงแห่งเดียวในพัทยาและทะเลฝั่งอ่าวไทย สามารถรองรับการจอดเรือยอชต์ได้ถึง 380 ลำ ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินำเรือยอชต์มาจอดหมุนเวียนปีละ 15 ลำ เนื่องจากมีจุดเด่นด้านความสวยงามทางทรัพยากรทะเลและแวดล้อมด้วยหมู่เกาะมากถึง 43 เกาะ โดยใช้เวลาเดินทางภายใน 1 ชั่วโมง

“เรือยอชต์แต่ละลำที่มาจอดมีมูลค่าประมาณ 20-200 ล้านบาท แต่ละลำจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแลและอื่นๆ ในช่วงเวลาจอดปีละประมาณ 4-10% ของมูลค่าเรือ ขณะเดียวกัน เมื่อนำเรือแล่นแต่ละครั้งยังทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในด้านต่างๆ ประมาณ 10-20% เช่น ค่ากัปตัน ค่าอาหาร ค่าจัดดอกไม้ประดับเรือ และอื่นๆ จึงถือได้ว่าเรือยอชต์แต่ละลำที่มาจอดมีส่วนช่วยสร้างเงินสะพัดในท้องถิ่นพัทยาเป็นจำนวนหลายสิบล้านบาทต่อปี”

การจัดงานแสดงเรือนานาชาติ “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์” กลายเป็นอีเวนต์ทางธุรกิจที่สำคัญของวงการธุรกิจท่องเที่ยวทะเลไทย ทั้งได้ต้อนรับผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากภายในประเทศเข้าสู่เมืองพัทยาและจนขยายเป็นงานที่ดึงผู้ร่วมงานและนักธุรกิจจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในวงการธุรกิจทั้งในไทยและนานาชาติต่างให้ความสำคัญต่อการร่วมงานในแต่ละปี ตลอดจนจับตามองตลาดการท่องเที่ยวทางทะเลไทยที่กำลังเติบโต มีศักยภาพและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก

ดร.ธีระชัยกล่าวอีกว่า ในปี 2559 มีปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนให้การจัดงาน “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์” มีส่วนช่วยส่งเสริมให้พัทยากลายเป็น “ริเวียราแห่งเอเชีย” ทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของพัทยาและแสดงศักยภาพของอ่าวไทย คือ การที่กรมศุลกากรได้ปรับปรุงกฎระเบียบใหม่ขยายเวลาการแวะพักของเรือยอชต์ต่างชาติที่มาเยือนในบริเวณน่านน้ำอ่าวไทยได้ยาวนานขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา การจอดเรือยอชต์ใน “โอเชียน มารีน่า ยอชท์ คลับ พัทยา” ยังมีข้อจำกัดด้านระยะเวลาเพียงครั้งละ 2 เดือนตามกฎระเบียบด่านศุลกากร แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ พยายามผลักดันให้มีการผ่อนปรนเวลาให้ยาวนานขึ้น ล่าสุดด่านศุลกากรมาบตาพุดจึงแก้ไขระเบียบให้มีการออกใบอนุญาตชั่วคราวระยะเวลา 18 เดือนให้เรือยอชต์ต่างประเทศ รวมทั้งกฎระเบียบในการดำเนินการต่างๆ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ต.ที่ผ่านมา

“การแก้ไขกฎระเบียบครั้งนี้จึงถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของพัทยาให้มีการเติบโตสูงขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยจูงใจให้มีเรือยอชต์จากต่างชาติมาจอดเพิ่มขึ้นเป็น 100 ลำ พร้อมสร้างเงินหมุนเวียนในพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง 500-1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรือยอชต์ต่างชาติที่มาจอดส่วนใหญ่เป็นของจีน 30-40% เกาหลี 20-30% รัสเซีย 10% ไทย 10% อื่นๆ 10%” ดร.ธีระชัยกล่าวในตอนท้าย

ด้าน นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรมาบตาพุด กล่าวว่า ในอดีตเรือต่างชาติที่เข้ามาที่น่านน้ำพัทยาได้รับอนุญาตให้แวะพักจอดในประเทศได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันกรมศุลกากรได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน โดยเรือต่างชาติที่เข้ามาจะต้องมีการทำพิธีการศุลกากร สำหรับเรือสำราญและกีฬาซึ่งจะอนุญาตให้เรืออยู่ในเมืองไทยได้ตามร้องขอและสูงสุด 6 เดือนต่อครั้ง และหลังจากนั้นสามารถต่ออายุได้อีก โดยต้องมีการแจ้งเหตุผล เช่น อยู่เพื่อซ่อมแซมเรือ หรือต้องการท่องเที่ยวต่อ แต่จะต้องมีที่จอดที่ชัดเจน อาทิ จอดในมารีนา

“สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลให้พัทยากลายเป็นฮับของการท่องเที่ยวทางทะเล และมีความพร้อมที่จะต้อนรับเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์จากนานาประเทศมากกว่า 1 พันลำเป็นประจำทุกปีในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้การท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี” นางมนทิรากล่าวเสริม

อนึ่ง งาน “โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2016” จะจัดแสดงเรือและสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 4 วัน โดยมีแบรนด์เรือชั้นนำมาร่วมแสดงเรือหลากหลายภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น Azimut Yachts, Beneteau, Cranchi, CNB Yachts, Jeanneau, Lagoon, Monte Carlo Yachts, Prestige, Princess Yachts, Viking Yachts and Wider

นอกจากนั้นยังมีแบรนด์เรือซูเปอร์ยอชต์ อย่าง Admiral และ Sanlorenzo และยังมีการจัดแสดงเรือยอชต์ที่มีเจ้าของแล้ว ตลอดจนสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทางทะเล สินค้าลักชัวรีและไลฟ์สไตล์อีกมากมาย โดยผู้ซื้อสามารถเยี่ยมชมเรือยอชต์ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถมีการ Test Drive ได้เลยเนื่องจากเรือจัดแสดงอยู่ในมารีนาและสถานที่เอื้ออำนวยในการนำเรือเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย



กำลังโหลดความคิดเห็น