“สมคิด” หนุนใช้ครีเอทีฟ อีโคโนมี ต่อยอดในการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมแสดงความมั่นใจเศรษฐกิจไทยแกร่ง ต่างชาติกลับมาลงทุนเพิ่มขึ้นแน่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีการผลักดันนโยบายออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งไทยแลนด์ 4.0 เศรษฐกิจท้องถิ่น ไทยแลนด์ดิจิทัล สตาร์ทอัพไทยแลนด์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (ครีเอทีฟ อีโคโนมี) ซึ่งเดิมการทำนโยบายในเรื่องเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ รัฐบาลได้นำมารวมเป็นก้อนเดียวกัน และผลักดันให้มีการใช้นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ไปต่อยอดในทุกสิ่งที่มีอยู่ ทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงเรื่องอื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไปต่อยอดในทุกสิ่งที่ไทยมีอยู่เป็นแนวทางที่ถูกต้องที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของไทย เพราะไทยจะเป็นเพียงแค่โรงงานผลิตหรือส่วนประกอบเหมือนในอดีตไม่ได้ แต่การผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะต้องมีการพัฒนาคน ปฏิรูปการศึกษา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ และยังได้ผลักดันให้เกิดการนำความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ประโยชน์ผ่านกลไกประชารัฐ
สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย รัฐบาลได้พยายามขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ อยู่ และมั่นใจว่าจะผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ โดยคนไทยจะต้องมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง เพราะขณะนี้ต่างชาติกำลังจับตาดูอยู่ว่าไทยจะเป็นอย่างไร แต่ขอให้ไม่ต้องกังวล รัฐบาลได้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าอีกไม่นานการลงทุนจากต่างประเทศก็จะไหลกลับเข้ามา
“เข้าใจว่าตอนนี้คนไทยไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำหรือคิดอะไรมาก เพราะอยู่ในช่วงสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่คนไทยก็ได้แสดงพลังให้ทั่วโลกเห็นแล้วถึงความสามัคคี ซึ่งเป็นพลังร่วมที่ยิ่งใหญ่และหาที่อื่นไม่ได้ และเป็นเรื่องที่ต่างชาติจะต้องเข้าใจ และไทยควรเอาพลังนี้มาขับเคลื่อนให้ประเทศเดินหน้าต่อไป” นายสมคิดกล่าว
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ได้เดินหน้าผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสินค้า ทั้งการพัฒนางานด้านดีไซน์ การออกแบบ การใช้นวัตกรรม ซึ่งมีสินค้าที่มีการพัฒนาและได้รับการยอมรับออกสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก