xs
xsm
sm
md
lg

“มาซูม่า” รุกหนักเครื่องกรองน้ำ โหมงานโครงการ-เพิ่มศูนย์ฯ-ตปท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “มาซูม่า” เคลื่อนทัพใหญ่ ตั้งเป้าปี 59 โต 15% เปิดยุทธศาสตร์ 4N รุกตลาดเครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ปีหน้าทุ่มงบ 150 ล้านบาท ขยายทุกช่องทาง เน้นงานโครงการมากขึ้น พร้อมรุกอีก 2 ประเทศ กัมพูชา และลาว หวังดันรายได้รวมทะลุ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมเครื่องกรองน้ำ เติบโตน้อยเพราะแข่งขันรุนแรง

นายศรัล ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นแบรนด์ “มาซูม่า” ของไทย เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องกรองน้ำในไทยมูลค่ากว่า 3,800 ล้านบาท มีการแข่งขันกันสูงมาก ขณะเดียวกัน ภาพรวมก็เติบโตไม่มากนัก 5-7% เท่านั้น ต่ำกว่าในอดีตที่เคยเติบโตประมาณ 10% เพราะสภาพเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี และมีผู้เล่นหลายราย และมีการแข่งขันด้านราคาจากหลายแบรนด์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องกรองน้ำยังมีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีอีกมากเนื่องจากคนไทยหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งคนรุ่นใหม่นิยมใช้เครื่องกรองน้ำเพราะความสะดวกสบายและมูลค่าตลาดในไทยยังต่ำอยู่ ส่วนตลาดรวมเครื่องทำน้ำอุ่น มูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท เติบโต 5% ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตอีกเช่นกัน

ในปี 2560 บริษัทฯ มีแผนที่จะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยจะสร้างการเติบโตทั้งจากช่องทางเดิม คือ โมเดิร์นเทรดที่ขณะนี้มีสัดส่วนการขาย 40% เทรดดิชันนัลเทรด สัดส่วน 30% และอีก 40% เป็น งานระบบ งานโครงการ และอื่นๆ ซึ่งจะเน้นเพิ่มงานโครงการและงานระบบมากขึ้น คาดว่าจะเป็น 40% จากรายได้รวม รวมไปถึงการขยายตลาดในต่างประเทศด้วย คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม คาดว่าจะสร้างรายได้จากต่างประเทศปีหน้าเป็น 20% จากปัจจุบันมี 2 ประเทศ คือ กัมพูชา และลาว โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ สัดส่วนรายได้ 10%

ปีนี้คาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 860 ล้านบาท เติบโต 15% โดยมาซูม่าเป็นแบรนด์ที่ติดท็อปทรีในแง่ส่วนแบ่งตลาด ซึ่งช่วง 9 เดือนแรกทำรายได้แล้ว 750 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจาก เครื่องกรองน้ำ 60%, เครื่องทำน้ำอุ่น 30%, ตู้กดน้ำ 5% และปั๊มน้ำ 5% ซึ่งรวมรายได้จากต่างประเทศแล้วคือ 80 ล้านบาท ขณะที่ปีหน้าคาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 1,080 ล้านบาท เติบโต 20% และรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 20% หรือประมาณ 200 ล้านบาท ปีหน้าถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ตั้งเป้าไว้สูงมากจากเดิมเฉลี่ย 10% เท่านั้น

ทั้งนี้ ปีหน้าวางงบลงทุนรวมไว้ 150 ล้านบาท แบ่งเป็น งบการตลาด ประชาสัมพันธ์ 50 ล้านบาท ล่าสุดได้ทำการปรับแบรนด์และรีโลโก้ใหม่ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 24 ของการดำเนินธุรกิจ, งบอีก 50 ล้านบาทจะนำไปลงทุนขยายศูนย์บริการและโชว์รูมเพิ่มอีก 6 สาขา จากปัจจุบันมี 19 สาขาแล้วทั่วประเทศ

ส่วนงบการปรับปรุงโรงงานผลิต 50 ล้านบาท โดยในส่วนของการผลิตนั้นมีโรงงานอยู่ที่ลาดหลุมแก้ว ปัจจุบันผลิตได้รวม 150,000 ยูนิตต่อปี (แบ่งเป็นเครื่องกรองน้ำ 90,000 ยูนิต และเครื่องทำน้ำอุ่น 60,000 ยูนิต) คาดว่าปีหน้าจะเพิ่มกำลังผลิตรวมเป็น 180,000 ยูนิตต่อปี ขณะที่ปีที่แล้วกำลังผลิตรวมอยู่ที่ 120,000 ยูนิตต่อปี โดยเป็นการผลิตเอง ยังไม่มีการรับจ้างโออีเอ็มแต่อย่างใด

นายศรัลกล่าวด้วยว่า กลยุทธ์ที่จะใช้ในการทำตลาดจากนี้คือ “4N “ ประกอบด้วย 1. New Generation Management Team ที่มีผู้บริหารรุ่นใหม่ เจนที่2เข้ามาร่วมบริหารงานมากขึ้น 2. New Brand Logo โลโก้ใหม่ ออกแบบภายใต้แนวคิดความผูกพันของสายน้ำ คู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของลูกค้า เน้นความเป็น Smart Water Solution ที่เน้นความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ การใส่ใจดูแล และนวัตกรรม 3. New Innovation นำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีนีล่าสุด การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง และ 4. New Innovative Product Design ให้ความสำคัญต่อการออกแบบสินค้า

ล่าสุดเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ชนิด คือ 1. เครื่องกรองน้ำมาซูม่าแม็กเนติกอัลคาไลน์ และ 2. เครื่องทำน้ำอุ่น มาซูม่า เน็กซ์ สมาร์ท ไลท์ ด้วยความพิเศษ เมื่อไฟดับ เครื่องทำน้ำอุ่นจะมีหลอดไฟแอลอีดีให้ความสว่างทันที เพื่อลดอุบัติเหตุจากความมืดและการลื่นในห้องน้ำซึ่งจากข้อมูลพบว่าคนไทยลื่นล้มและเสียชีวิตในห้องน้ำมากกว่า 1,600 คนต่อปี และ 1 ใน 3 จะเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปเพราะพื้นลื่นและมืด



กำลังโหลดความคิดเห็น