“การบินไทย” ชี้แจงกรณีเที่ยวบิน TG473 กรุงเทพฯ-บริสเบน ต้องขอลงจอดที่เกาะบาหลี เหตุมีระบบน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ด้านขวาเกิดการรั่วซึมลดลงจากค่ามาตรฐาน ยันทำการบินตามมาตรฐานสากล พร้อมดูแลผู้โดยสารตามขั้นตอน แจงโอนย้ายผู้โดยสารไปสายการบินอื่นยาก เหตุมีแต่โลว์คอสต์ และที่นั่งว่างไม่พอ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงกรณีเที่ยวบินที่ TG473 เส้นทางกรุงเทพฯ-บริสเบน (ออสเตรเลีย) วันที่ 9 ตุลาคม 2559 ออกจากสุวรรณภูมิในเวลา 23.59 น. กำหนดถึงบริสเบนเวลา 11.50 น.ของวันที่ 10 ตุลาคม 2559 บรรทุกผู้โดยสารรวม 255 คน แบ่งเป็นชั้นธุรกิจ 21 คน และชั้นประหยัด 234 คน ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-8
โดยระหว่างทำการบินกัปตันพบว่า เครื่องยนต์ด้านขวามีระบบน้ำมันหล่อลื่นเกิดการรั่วซึมลดลงจากค่ามาตรฐาน กัปตันได้พิจารณาแล้วเพื่อปลอดภัยในการทำการบินตามมาตรฐานสากลจึงจำเป็นจะต้องขอลงจอดที่สนามบินที่เหมาะสม และใกล้ที่สุดในขณะนั้น คือ สนามบินเดนปาซาร์ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ประสานงานกับภาคพื้นและเครื่องบินทำการลงจอดอย่างปลอดภัยในเวลา 09.11 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 10 ตุลาคม 2559 เพื่อทำการตรวจสอบทางเทคนิคอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ในขณะที่เครื่องบินลงจอด ผู้จัดการการบินไทยประจำสนามบินเดนปาซาร์ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผู้โดยสาร โดยนำผู้โดยสารและลูกเรือเข้าพัก ที่โรงแรม โดยไม่ได้มีการโอนย้ายผู้โดยสารไปยังสายการบินอื่น เพื่อเดินทางสู่บริสเบนเนื่องจากส่วนมากเป็นสายการบินต้นทุนต่ำและมีจำนวนที่นั่งว่างไม่เพียงพอ
ต่อมาวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ทางการบินไทยได้จัดเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-8 อีกลำ ไปรับผู้โดยสารและทำการบินไปยังบริสเบนด้วยเที่ยวบินที่ TG 4739 ออกเดินทางจากสนามบินเดนปาซาร์ เวลา 18.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึงบริสเบนเวลา 01.18 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
สำหรับเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-8 ลำที่เกิดเหตุขัดข้องดังกล่าว ขณะนี้ได้ทำการซ่อมบำรุงเรียบร้อยและนำกลับมาทำการบินตามตารางบินแล้ว