xs
xsm
sm
md
lg

“ศีลธรรมกลับมา” ธรรมะพัฒนาประเทศ ในเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ครบรอบ 20 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ความมั่งคั่ง ไม่ใช่แค่เพราะมีรายได้หรือทรัพย์สินภายนอกจำนวนมาก แต่หมายถึงการมีความสุขภายในจิตใจ ที่เริ่มด้วยการเป็นคนดี มีศีลธรรม มีคุณธรรม อยู่ที่ไหนก็น้อมนำหลักคำสอนพระพุทธศาสนาไปใช้ และวิธีทำให้คนไทย มั่งคั่ง ก็คือ มีสุข พอเพียง และพร้อมจะคืนกำไรให้ประชาชน”

ข้อคิดจากปาฐกถาธรรมของ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานครและอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หัวข้อ “ศีลธรรมกลับมา” ในโอกาส ครบรอบ 20 ปี เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ซึ่งซีพี ออลล์ ได้นิมนต์ พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ จำนวน 23 รูป มาร่วมเจริญพุทธมนต์ อาทิ พระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร , พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภโณ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร , พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ศูนย์ปฏิบัติธรรมไร่เชิญตะวัน เป็นต้น พร้อมด้วยการปาฐกถาธรรมพิเศษจาก พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ให้กับประชาชนกว่า 1,200 คนได้ทำบุญร่วมกัน

พระพรหมบัณฑิต กล่าวว่า การที่คนไทยเกิดมาในผืนแผ่นดิน ที่มีทรัพยากร มีแรงงานฝีมือ ถือเป็นเรื่องดี แต่การที่คนไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สนใจงานที่มีรายได้ต่ำ อย่างไรก็ตามการจะพัฒนาประเทศดีขึ้นไปกว่านี้ จะต้องสร้างระบบที่พึ่งพาตัวเองได้ โดยมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ในที่นี้หมายถึง “การพัฒนาคน” ให้มีการศึกษาสูงขึ้น ให้เป็นคนคุณภาพ ที่ใช้มันสมองและสติปัญญามาสร้างสรรค์นวัตกรรม และก็ต้องพัฒนาคนให้ตรงกับงานที่จะทำ เหมือนกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ที่ได้พัฒนาคนให้ตรงกับงาน

“นอกจากนี้จะขับเคลื่อนประเทศได้ ต้องนำศีลธรรมกลับมาโดยสร้างคนที่มีคุณภาพ สร้างคนที่มีระเบียบวินัยสูง มีการฝึกฝน อดทน ฟันฝ่า จนไปถึงดวงดาว และพอสำเร็จแล้ว อย่า “ปล่อย” สิ่งที่เคยทำ อย่าหลงกับความสำเร็จ ความดัง ความมั่งคั่ง แต่ให้มองถึงความดี ศีลธรรม เคยเป็นคนขยันขันแข็งจนร่ำรวยมั่งคั่งมาอย่างไร ก็ต้องขยันขันแข็งต่อไป และถ้าเรามีคุณธรรม มีน้ำใจ แบ่งปันความมั่งคั่งไม่ใช่เพียงรายได้ภายนอก แต่จะต้องมั่งคั่งทั้งความสุขภายในจิตใจ อยู่ที่ไหนก็ขอให้มีเรื่องศาสนา เรื่องศีลธรรมกำกับไปด้วย แล้วจะทำให้แม้เผชิญเหตุการณ์ใด ก็สามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เปลี่ยนความพินาศเป็นการพัฒนาเปลี่ยนปัญหาให้เป็นบทเรียน และพึงรักษาการแบ่งปันช่วยเหลือดังเช่นที่มีโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ สืบสานพุทธศาสนาแล้วจะนำมาซึ่งสังคมคุณธรรม” พระพรหมบัณฑิตกล่าวทิ้งท้าย

สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น มีประชาชนและพนักงาน ซีพี ออลล์ กว่า 1,200 คน ร่วมงานทำบุญ ทำทาน และร่วมกันถวายสลากภัต ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานในครั้งนี้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เปิดโอกาสให้ประชาชนถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์โดยไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นพระรูปใด เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวก่อเกิดความสามัคคีในการร่วมบุญ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีโอกาสเพลิดเพลินไปกับ คอนเสิร์ตธรรมะ ที่มีเหล่าศิลปินดารามาบรรเลงเพลง

ด้าน นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ประธานจัดงาน กล่าวถึง นโยบายส่งเสริมการศึกษา พัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม ของซีพี ออลล์ว่า โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2540 โดยได้นิมนต์พระอาจารย์มาบรรยายธรรมเริ่มจากให้พนักงานบริษัทฯร่วมฟัง และขยายผลสู่ประชาชน เพื่อให้น้อมนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากสีลมเป็นถนนสายธุรกิจที่สำคัญของประเทศ แต่ไม่มีวัดไทย โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ จึงเป็นเสมือนพื้นที่ให้คนในชุมชนได้มาร่วมกันทำบุญ เพื่อร่วมสร้างพื้นที่ธรรมะสำหรับคนเมือง สร้างความสงบ เสริมสติ และก่อให้เกิดปัญญาแก่ทุกคน

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา ได้จัดงานเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ เป็นประจำทุกเที่ยงวันศุกร์ต่อเนื่องมากว่า 1,100 ครั้ง โดยในแต่ละเดือนจะนิมนต์พระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเทศนาธรรมบรรยาย 3 สัปดาห์ ในหนึ่งสัปดาห์ของเดือนจะเชิญฆราวาสที่มีชื่อเสียงมาแบ่งปันธรรมะที่ตนเองปฏิบัติ โดยแต่ละครั้งจะมีผู้ร่วมฟังบรรยาย 300 – 500 คน

นอกจากโครงการดังกล่าว ซีพี ออลล์ ยังมีการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาคุณธรรม อาทิ โครงการส่งเสริมสอบธรรมศึกษาแก่พนักงาน เพื่อสนับสนุนให้พนักงานได้ศึกษาหลักธรรม โดยดำเนินโครงการถึงปัจจุบันพนักงานของบริษัทสามารถ สอบผ่านธรรมศึกษาชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก แล้วกว่า 17,360 คน และมีโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ สัญจร “ธรรมสู่เยาวชน”เพื่อนำหลักธรรมทางพุทธศาสนาไปเผยแผ่สู่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่ผ่านมาได้จัดบรรยายธรรมให้นักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ มาแล้วกว่า 15,000 คน อาทิ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ , โรงเรียนบดินทรเดชา สิงห์ (สิงหเสนี) 4 และโรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ เป็นต้น เพื่อเป็นการบ่มเพาะเยาวชนให้เป็นทั้งคนเก่งและดีของสังคมไทย









กำลังโหลดความคิดเห็น