กนอ.มั่นใจเอาอยู่ เตรียมพร้อมป้องน้ำท่วมนิคมฯ จ.พระนครศรีอยุธยา

“กนอ.” ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตรวจสภาพความพร้อมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนิคมฯ ไฮเทค บางปะอิน สหรัตนนคร โดยมั่นใจมาตรการต่างๆ ที่เตรียมไว้ไร้ปัญหาเอาอยู่ แม้นิคมฯ สหรัตนนครจะยังสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่เตรียมมาตรการต่างๆ รับมือแล้ว

นางสาวกฤตยาพร ทัพภะทัต รองผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมปี 2559 กล่าวว่า กนอ.มั่นใจจะสามารถป้องกันอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นแก่นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวได้ โดย กนอ.ได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ระบายออกจากทั้ง 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก โดยปริมาณน้ำที่ระบายออกรวมกันทั้ง 3 เขื่อนมีค่าเฝ้าระวังไม่เกิน 3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อน 2,700 ลบ.ม./วินาที เทียบกับค่าการระบายน้ำเมื่อปี 2554 เฉลี่ยอยู่ที่ 5,800-6,000 ลบ.ม./วินาที ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล

นอกจากนี้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำโดยรอบนิคมฯ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการป้องกันแต่ละแห่ง โดยนิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมฯ บางปะอิน มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมและมีสถานีสูบน้ำเพื่อเตรียมพร้อมในการระบายน้ำออกจากพื้นที่นิคมฯ บ้านหว้า มีความสูงอยู่ที่ประมาณ +5.40 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง และนิคมฯ บางปะอิน มีความสูงประมาณ +6.00 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง

สำหรับนิคมฯ สหรัตนนครมีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมความสูงประมาณ +7.50 เมตร รทก. หากแต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยได้มีมาตรการตรวจสอบคันป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ สหรัตนนคร และตรวจสอบระดับน้ำโดยรอบแนวถนนทางหลวงระยะทาง 32.5 กิโลเมตร (แนวป้องกันชั้นนอก) และด้านนอกคันป้องกันน้ำท่วมนิคมฯ ระยะทาง 7.2 กิโลเมตร (แนวป้องกันชั้นใน) วันละ 2 ครั้ง (เช้า 09.00 น.-เย็น 16.00 น.)

พร้อมทั้งยังจัดหาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเครื่องสูบน้ำเสริมชนิดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาสำรองในพื้นที่ให้เพียงพอในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จากปัจจุบันที่มีเครื่องสูบน้ำหลักชนิดใช้ไฟฟ้า ขนาด 1.5 ลบ.ม./วินาที จำนวน 3 เครื่อง และการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์เพื่อป้องกันน้ำท่วมฉุกเฉินทั้งเขื่อนเคลื่อนที่เร็ว ทราย กระสอบทราย Big bag เสาเข็มไม้ พลาสติกปกคลุม รวมทั้งได้ขอยืมรถสูบน้ำเคลื่อนที่ ความสามารถ 1,800 ลบ.ม./ชม. จำนวน 2 คัน จากสำนักงานชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเตรียมความพร้อมไว้แล้ว รวมทั้งร่วมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา

“กรณีหากเกิดสถานการณ์อุทกภัย หรือเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (กรณีเกิดเหตุอุทกภัย) นิคมฯ สหรัตนนคร ตามที่ได้มีการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยของนิคมฯ ประจำปีอย่างเคร่งครัด ซึ่งในปีนี้ได้ทำการฝึกซ้อมร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา และนิคมฯ จะมีการสื่อสารให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเป็นประจำทุกวันหรือตามสถานการณ์ตามช่องทางการสื่อสาร เช่น กลุ่ม Line, E-mail, SMS หรือทางรถประกาศกระจายเสียง และรถสนับสนุนภารกิจบรรเทาสาธารณภัยของ กนอ. ECO Ranger เป็นต้น” นางสาวกฤตยาพรกล่าว