ชัยนาท - น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอสรรพยาแล้ว หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ไก่พื้นเมืองของชาวบ้านหนีน้ำไม่ทันตายกว่า 60 ตัว ขณะที่น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่สุพรรณบุรี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดระดมทีมช่วยเหลือ และเร่งนำกระสอบทรายเสริมแนวคันกั้นน้ำ
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา จากจังหวัดชัยนาท ว่า น้ำเจ้าพระยา และน้ำสะแกกรังที่ไหลมารวมกันที่จังหวัดชัยนาท มีปริมาณลดลงเล็กน้อย ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอเมืองชัยนาท เหนือเขื่อนเจ้าพระยาน้ำ ลดลง 17 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.53 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่เขื่อนเจ้าพระยา ยังคงระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น 97 ลบ.ม./วินาที จาก 1,901 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,998 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่อำเภอสรรพยา น้ำสูงขึ้น 20 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 14.80 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง
ส่งผลให้น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งในพื้นที่ตำบลโพนางดำออก และตำบลตลุก อำเภอสรรพยา ประมาณ 10 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ชาวบ้านจึงต้องขนย้ายข้าวของ และสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง ไก่พื้นเมืองอายุ 1-2 เดือน หนีน้ำไม่ทันตายไปกว่า 60 ตัว
นางจำเรียง สังข์ทอง อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมในตำบลตลุก อำเภอสรรพยา กล่าวว่า น้ำเจ้าพระยาเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และท่วมบ้านมาได้ 4 วันแล้ว โชคดีที่เก็บข้าวของหนีน้ำขึ้นไปไว้ชั้น 2 ได้ทัน แต่ไก่พื้นเมืองที่เลี้ยงไว้กินไว้ขายกว่า 100 ตัว หนีน้ำไม่ทัน ตายไปกว่า 60 ตัว ส่วนใหญ่เป็นไก่อายุ 1-2 เดือน เพราะยังเล็กอยู่ว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น และยังห่วงรังเดิมที่อยู่ในบ้าน มักคอยว่ายน้ำกลับเข้าไปในบ้านทำให้จมน้ำตาย ตนจึงต้องสร้างรังใหม่ไว้บนต้นไม้ที่อยู่ริมตลิ่งให้ไก่ที่เหลือขึ้นไปอาศัยอยู่จะได้ไม่ต้องว่ายน้ำกลับเข้าบ้านทำให้จมน้ำตายอีก
น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่สุพรรณบุรีเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนสถานการณ์น้ำที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า และ อำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการลงพื้นที่ตำบลท่าระหัด อำเภอเมือง พบว่า น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 40-50 ซม.
จากการตรวจสอบบริเวณริมเขื่อนเมืองสุพรรณบุรี ปริมาณน้ำได้เพิ่มระดับใกล้จุดวัดสูงสุดของเขื่อน ซึ่งเหลืออีกเพียงประมาณ 25 เซนติเมตร น้ำก็จะมีระดับสูงเหนือแนวเขื่อนกั้นน้ำแล้ว ซึ่งเทศบาลได้นำกองทรายและกระสอบปุ๋ยมาวางให้กับชาวบ้านเพื่อกรอกเป็นกระสอบทรายไปเสริมคันกั้นน้ำและจัดหารถแบคโฮมาขุดคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งยังได้เตรียมจัด ห้องสุขาเคลื่อนที่ เครื่องจักรกล เรือท้องแบน และรถบรรทุก เพื่อเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของให้กับประชาชนในทันทีที่น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านแล้วด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ระดมหน่วยงานออกตรวจสอบความเคลื่อนไหวของระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถออกช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่เกิดปัญหา พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ประตูระบายน้ำพลเทพ จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำอยู่ที่ 100.35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านประตูระบายโพธิ์พระยา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเร่งระบายน้ำอยู่ที่ 200-220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้บริเวณน้ำท้ายประตูระบายน้ำระดับน้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นสู่ที่สูง หรือที่ปลอดภัย และเกษตรกรควรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อป้องกันความเสียหาย
