ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดคลินิกเสริมความงาม 2.5 - 3 หมื่นล้านบาท รับผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้คลินิกบางแห่งรัดเข็มขัดลดต้นทุนยุบรวมสาขา ด้าน “ธนพรคลินิก” บุกหนักทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท รีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี ยกฐานะเป็นพรีเมียม ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% พร้อมวางแผนขยายสาขา 40 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2565
นายชยุตม์กันต์ พงศ์จิรกร ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาด “ธนพรคลินิก” เปิดเผยว่า ตลาดคลินิกเสริมความงามในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 2.5-3 หมื่นล้านบาท ถือว่ามีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ส่งผลให้คลินิกเสริมความงามที่มีสาขาเป็นจำนวนมากจำเป็นต้องปิดสาขาบางแห่งและยุบรวมเหลือสาขาเดียวในจังหวัดเดียว เพราะมีต้นทุนสูงทั้งค่าเช่าสถานที่ ต้นทุนด้านบุคลากรทั้งแพทย์และพนักงาน ต้นทุนสินค้า ต้นทุนเครื่องมือและนวัตกรรมต่างๆ ขณะที่พฤติกรรมของลูกค้ามีความระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น โดยมักจะเลือกซื้อคอร์สที่คิดว่าคุ้มค่า จึงคาดว่าในปี 2559 ผู้ประกอบธุรกิจคลินิกความงามที่มีหลายสาขาอาจประสบปัญหายอดขายลด 10-40%
ด้าน นพ.เลอพงษ์ กรุดเงิน ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร “ธนพรคลินิก” ฝ่ายแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “ธนพรคลินิก” มี 16 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 12 สาขา ต่างจังหวัด 4 สาขา ผู้มีใช้บริการกว่า 4 หมื่นราย รวมความถี่การใช้บริการทุกสาขามากกว่า 1.5 แสนครั้งต่อปี โดยกำหนดเป้าหมายขยายสาขาเป็น 40 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 25 สาขา และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภาค 15 สาขา คาดว่าจะครบตามเป้าภายในปี 2565 โดยมีแผน 10 ปีที่จะขยายเป็นโรงพยาบาลความงามในปี 2569
“ธนพรคลินิก” เป็นคลินิกที่มีนวัตกรรมทางความงามหลากหลายตอบโจทย์ทุกช่วงอายุและกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แบ่งเป็นกลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-35 ปี ประมาณ 50% กลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ประมาณ 30% และกลุ่มต่ำกว่า 25 ปี ประมาณ 20% โดยคลินิกเป็นที่รู้จักในภาพจำที่ว่าเป็นคลินิกที่มี “ออย - ธนา สุทธิกมล” เป็นพรีเซนเตอร์
สำหรับผู้ใช้บริการของ “ธนพรคลินิก” มี 4 กลุ่มคือ ระดับ Platinum ยอดใช้จ่ายเกิน 1 แสนบาทขึ้นไป ระดับ Gold ยอดใช้จ่าย 5 หมื่นบาท - 1 แสนบาท ระดับ Classic ยอดใช้จ่าย 1-5 หมื่นบาท และระดับ Member ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท โดยทุกระดับจะมีการสะสมคะแนน สะสมยอดใช้จ่ายแลกรับเป็นของรางวัลต่างๆ ตามโปรโมชั่นและแคมเปญส่งเสริมการขายทุกๆเดือน เพื่อกระตุ้นผู้ใช้บริการใหม่ให้เข้ามาใช้บริการ โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.tanapornclinic.com
นพ.เลอพงษ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 “ธนพรคลินิก” ใช้งบประมาณด้านกลยุทธ์ทางการตลาดกว่า 30 ล้านบาท เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพื่อให้มีความเป็นพรีเมี่ยม พร้อมกับการสร้าง Brand Awareness โดยใช้สื่อทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และออนกราวด์ ประกอบด้วยภาพยนตร์สั้น 1 เรื่อง และภาพยนตร์โฆษณาอีก 4 เรื่อง พร้อมกับกำหนดตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนขึ้น
การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วยการเชิญ 4 โซเชียลเซเลบริตี้สาวสวยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หรือตัวแทน 4 ฮีโร่นวัตกรรมความงามที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัยที่ประสบปัญหาผิวและปัญหาโครงสร้างใบหน้าแตกต่างกัน ได้แก่ นวัตกรรมเลเซอร์ลดเลือน ฝ้า กระและความหมองคล้ำ, นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง, นวัตกรรมแสงรักษาสิว และศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยเทคนิค MIR (Minimal Invasive Surgery) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Enhance your Confidence : ธนพรคลินิก เติมความมั่นใจให้กับคุณ” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมความงาม
“ธนพรคลินิกวางนโยบายที่จะสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่นกับกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้บริการคลินิกเสริมความงามมาก่อน แต่มีความตั้งใจที่จะใช้บริการคลินิกเสริมความงาม ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็น Blue Ocean ที่ไม่ต้องไปแข่งขันด้านราคาแย่งลูกค้าใน Red Ocean กับคลินิกอื่นๆ โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2559 เพิ่มขึ้น 10% เติบโตเท่าปีก่อน ส่วนในปี 2560 ตั้งเป้าเติบโตขึ้นประมาณ 10% แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น ทรีตเมนต์ดูแลผิวหน้า 30, ผลิตภัณฑ์ยาและเวชสำอาง 25% เลเซอร์ดูแลผิวหน้า 20% ฉีด Botox & Filler 20% และศัลยกรรมความงาม 5%” นพ.เลอพงษ์ กล่าวในที่สุด
