โพลคาดกินเจปีนี้เงินสะพัดเฉียด 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังคนหันมากินเจมากขึ้นเพราะอยากทำบุญ และเทรนด์รักษาสุขภาพมาแรง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,206 ราย ระหว่าง 19-27 ก.ย. 2559 ว่า เทศกาลกินเจปีนี้จะมีเงินสะพัดประมาณ 43,981 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.2% เป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัว 2.1% ปี 2558 ขยายตัว 2.9% เพราะปีนี้คนนิยมกินเจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่กินอาหารเจจะหันมากินอาหารเจมากขึ้น ประกอบกับมีความตั้งใจที่จะทำบุญ และมีเทรนด์ในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยการลดบริโภคเนื้อสัตว์และกินผักมากขึ้นเข้ามา
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าเคยกินเจและกินต่อเนื่องทุกปี ส่วนผู้ที่ไม่เคยกินเจมีบางรายที่จะเริ่มหันมากินเจในปีนี้ โดยผู้ที่กินเจจะกินตลอดเทศกาลตั้งแต่วันที่ 1-9 ต.ค. 2559 และบางส่วนจะกินบางมื้อ เพราะหาซื้อยาก และอาหารเจมีราคาแพง
สำหรับการบริโภคอาหารเจมีทั้งซื้อมาทำกินเอง และซื้อที่ปรุงสำเร็จแล้ว โดยจะซื้อที่ตลาด ร้านค้าทั่วไป ซูเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า สื่อออนไลน์ที่มีการจัดส่ง และซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ ผลสำรวจเกี่ยวกับการเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ส่วนใหญ่ 66.8% ไม่มีแผนการเดินทาง มีเพียง 33.2% ที่ระบุว่ามีแผนเดินทาง และจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ซึ่งพื้นที่ที่จะเดินทางไปมากสุด คือ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก เช่น ชลบุรี พระรครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี รองลงมา คือ ภาคใต้ เช่น ตรัง สงขลา พังงา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุทัยธานี ชัยภูมิ เลย ภาคเหนือ เช่น นครสวรรค์ เชียงใหม่ เชียงราย และสุดท้าย คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล
