“คมนาคม” สั่งล้อมคอกอุบัติเหตุเรือล่ม เร่งเจ้าท่าออกประกาศบังคับเรือทุกลำในแม่น้ำเจ้าพระยาติดระบบ AIS และทำแอปฯ แจ้งเรือเข้า-ออกจากท่า แจ้งต้นทาง-ปลายทางให้เสร็จในกลางปีงบ 60 “อาคม” ระบุต่อไปเรือโดยสารจะต้องขออนุญาตก่อนเดินเรือหรือออกนอกเส้นทาง พร้อมพิจารณาเพิ่มประกันและความรับผิดชอบเจ้าของเรือและคนขับ เพิ่มมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากอุบัติเหตุเรือจมในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดสนามไชย เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการ 1. ตรวจสอบข้อเท็จจริงการกำกับควบคุม ดูแล และการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่การจดทะเบียนเรือ การตรวจสอบเรือ การออกใบอนุญาตผู้ควบคุมเรือ ท่าเรือ ลักษณะของเรือ การติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตในเรือ การลาดตระเวนตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการดำเนินการกำกับควบคุมอื่นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน
2. ให้ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของท่าเรือทั้งในส่วนท่าเรือสาธารณะและท่าเรือเอกชน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง และการรุกล้ำลำน้ำของโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นภัยต่อการเดินเรือทั้งหมดในประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
3. ให้ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเรือโดยสาร การติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด เช่น เสื้อชูชีพ ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลา 1 เดือน
ส่วนระยะที่ 2 จะดำเนินการมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำซ้อน โดยจะใช้มาตรการกำลังคน ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อกำกับการเดินเรือโดยสาร เช่น ให้กรมเจ้าท่าออกประกาศการตรวจเรือโดยสารที่มีขนาดรับผู้โดยสารตั้งแต่จำนวน 25 คนขึ้นไปที่วิ่งตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ทั้งเรือโดยสารประจำทาง เรือท่องเที่ยว เรือแบบเช่าหมา ต้องติดตั้งเครื่องติดตามเรือ (AIS - Automatic Identification System) ซึ่งจะทำให้กรมเจ้าท่าสามารถกำกับ ติดตาม การเดินเรือโดยสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รวมถึงจัดทำระบบแจ้งเรือเข้า-ออกจากท่าเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ application ทำให้ทราบว่าเรือโดยสารมีจุดต้นทาง-ปลายทางใด โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกลางปีงบประมาณ 2560 ทำให้เรือโดยสารจะต้องขออนุญาตทำการเดินเรือ และการออกนอกเส้นทางจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ควบคุมก่อน
พร้อมกันนี้ ให้เชิญผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเรือ มาอบรมเพิ่มเติมด้านความปลอดภัยจากปีละ 2 ครั้ง เป็นปีละ 4 ครั้งในแต่ละจังหวัด และกำหนดให้เรือทุกลำต้องมีวิทยุสื่อสารติดตั้งในเรือทุกลำเพื่อทำการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่บริการจัดการการจราจรทางน้ำของกรมเจ้าท่าได้ตลอดเวลาในขณะเดินเรือ
นายอาคมกล่าวว่า จะเร่งพิจารณาในการเพิ่มบทลงโทษ เอาผิดผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเรือ โดยเฉพาะกรณีฝ่าฝืนข้อบังคับที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร พร้อมกันนี้จะพิจารณาในส่วนของการประกันชีวิต ที่ต้องครอบคลุมทั้งกรณีสาเหตุเกิดจากเจ้าของเรือ และผู้ควบคุมเรือจะต้องเชื่อมโยงกัน ซึ่งปัจจุบันหากผู้ควบคุมเรือทำผิดจะรับผิดชอบผู้เสียหาย แต่หากรับผิดชอบไม่ไหว หรือหลบหนีไปจะไม่สามารถให้เจ้าของเรือมาร่วมรับผิดชอบได้ เรื่องนี้จะต้องปรับแก้ให้ครอบคลุม