พระนครศรีอยุธยา - ปิดยอดผู้เสียชีวิตเหยื่อเรือล่มแล้วที่ 28 ราย แยกเป็นศพชาย 7 ราย หญิง 21 ราย ส่วนคนเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีอีก 7 คน แยกเป็นชาย 1 คน หญิง 6 คน ทุกคนปลอดภัยแล้ว ส่วนเรือมรณะเจ้าหน้าที่ลากไปยังจุดน้ำไม่ไหลเชี่ยวเพื่ออุดรอยรั่วก่อนนำขึ้นคานเรือยังอู่ซ่อมเรือเพื่อตรวจสอบภายในเรืออย่างละเอียด
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (20 ก.ย.) นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีเหตุเรือล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุด พบศพที่ 28 แล้ว คือ ศพของ นางทองใบ ขันธรักษ์ อายุ 89 ปี โดยศพลอยออกจากหัวเรือชั้นที่ 1 ขณะกำลังเคลื่อนย้ายเรือจากจุดที่จมหน้าวัดสนามไชย ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนางทองใบ เป็นมารดาของ นายสมบัติ ขันธรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองตะเคียน ซึ่งเป็นชุมชนมุสลิมติดกับ อบต.สำเภาล่ม
ทั้งนี้ ได้มีการประเมินแล้วว่า ศพ นางทองใบ เป็นศพสุดท้ายคนที่ 28 ของการเสียชีวิตหมู่ในครั้งนี้ โดยที่ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าจะมีรายที่ 29 คือ ด.ช.อภินัน แสงขำ อายุ 2 ขวบ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งทางทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง จากผู้นำทางศาสนาอิสลามในจังหวัด รวมถึงเครือญาตินามสกุลแสงขำ เพื่อหาครอบครัว พ่อแม่ของ ด.ช.อภินัน แสงขำ แล้ว ปรากฏว่า ด.ช.อภินัน แสงขำ ไม่มีตัวตน จึงสรุปได้ว่าในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดเพียง 28 คน ทั้งที่เสียชีวิตในที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเกิด ทำให้ยอดสรุปผู้เสียชีวิตและสูญหายครบหมดแล้ว แยกเป็นศพชาย 7 ศพ และหญิง 21 ศพ ส่วนคนเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีอีก 7 คน แยกเป็นชาย 1 คน หญิง 6 คน ทุกคนปลอดภัยแล้ว
ส่วนเรือที่ได้กู้ขึ้นมาโดยชั้น 2 โผล่พ้นน้ำ และชั้น 1 ยังอยู่ใต้ผิวน้ำ ซึ่งได้ทำการลากมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีแวะที่คุ้งน้ำฝั่งตรงข้ามใกล้โบสถ์นักบุญยอแซฟ ห่างจากจุดเรือจมประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อซ่อมอุดรอยแตกของเรือ ตรงท้องเรือใต้กาบเรือด้านขวา พบว่าท้องฟ้ามืดเจ้าหน้าที่ก็ยังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจากนั้นจะลากเรือต่อไปยังคานเรือศรีเจริญ ท้ายวัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่อยู่ห่างไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร และนำขึ้นเพื่อให้ตำรวจวิทยาการตรวจสอบเรือต่อไป
