อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยเริ่มไปโตในประเทศเพื่อนบ้าน คาดปี 2560 ยังทยอยหันไปลงทุนกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้นโดยเฉพาะเวียดนาม ตอบโจทย์ทั้งแรงงานเพียงพอ และยังมี GSP, TPP เอื้อ คาดปี 60 เครื่องนุ่งห่มไทยส่งออกจากเพื่อนบ้านจะคิดเป็น 1 ใน 3 ของการส่งออกจากไทย
นายวัลลภ วิตนากร ประธานบริหารบริษัท ไฮเทคกรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของไทย และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปี 2560 อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยยังมีแนวโน้มที่จะหันไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเวียดนาม หลังจากในช่วง 2-3 ปีอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของไทยรายใหญ่ต่างทยอยย้ายฐานการผลิตไปแล้วกว่า 30 ราย ทั้งนี้ นอกเหนือจากปัจจัยแรงงานที่เวียดนามมีความพร้อมแล้วยังมีเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี (จีเอสพี) ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ที่จะทำให้โอกาสการส่งออกมีมากขึ้น
“แรงงานที่ไทยขาดแคลนอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมาก อย่างเครื่องนุ่งห่มได้ทยอยไปลงทุนประเทศในกลุ่ม CLMV มากขึ้น และมองถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่จะได้รับ โดยเฉพาะ GSP ที่ไทยไม่มี โดยปีนี้คาดว่าการส่งออกของเครื่องนุ่งห่มไทยจะอยู่ประมาณ 2,550 ล้านเหรียญสหรัฐ อาจเป็นตัวเลขส่งออกติดลบ แต่เมื่อรวมการขยายฐานไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ระดับ 600 ล้านเหรียญฯ ทำให้การส่งออกทั้งหมดน่าจะอยู่ระดับ 2,800-3,000 ล้านเหรียญฯ และปีหน้าการส่งออกจากเพื่อนบ้านจะอยู่ระดับ 1,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะคิดเป็น 1 ใน 3 ของการส่งออกจากไทย” นายวัลลภกล่าว
สำหรับการส่งออกภาพรวมปี 2559 คาดว่าจะติดลบ 2% แต่ปี 2560 โอกาสการส่งออกจะเติบโตระดับ 2-3% จะมีได้หากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญและเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ก็จะทำให้เงินทุนไหลออกอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงและเป็นปัจจัยให้การส่งออกเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจีนแม้จะไม่เติบโต แต่ก็คาดว่าจะหยุดการชะลอตัวลงทำให้ภาพรวมจีนทรงตัวเช่นเดียวกับญี่ปุ่น ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) ยังต้องติดตามความชัดเจนกรณีอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกอียู (Brexit) อีกครั้ง