ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้ผลิตกะทิออร์แกนิกรายแรกของประเทศไทยเผยยอดขายโตต่อเนื่อง 30-40% จากปี 57 เตรียมเพิ่มพอร์ตสินค้าใหม่ช่วงปลายปีเป็น 4 ชนิดจากเดิม 3 ชนิด พร้อมพุ่งเป้าส่งออกกลุ่มประเทศเออีซี หวังรักษาตำแหน่งผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหารออร์แกนิก หลังประสบความสำเร็จในการส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลกภายใต้แบรนด์ต่างๆ
นายพีรโชติ จรัญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารเมอริท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กะทิออร์แกนิกรายแรกของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ “เมอริโต้” เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด ได้แก่ กะทิ น้ำมะพร้าว และน้ำมันมะพร้าว ซึ่งผลิตจากไร่มะพร้าวออร์แกนิกของบริษัทฯ กว่า 2 พันไร่ในจังหวัดจันทบุรี โดยใช้กรรมวิธีเกษตรอินทรีย์แท้ 100% ทั้งหมดในทุกขั้นตอนการผลิต
หลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เมื่อปี 2557 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 30-40% จากมูลค่าตลาดรวมกะทิออร์แกนิก 20 ล้านบาท โดย “เมอริโต้” ครองส่วนแบ่งทั้งหมดเพราะเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในปีนี้จึงมีแผนทำการตลาดตลอดปีเนื่องจากเห็นโอกาสของเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ผู้บริโภคนิยมจับจ่ายและเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมากขึ้น
“ภายในปีนี้เราจะเพิ่มสัดส่วนกิจกรรมการตลาด โดยจัดสัปดาห์ออร์แกนิกร่วมกับร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพฯ จัดกิจกรรมเวิร์กชอปสอนทำอาหารโดยใช้ผลิตภัณฑ์เมอริโต้ เพื่อให้ลูกค้าทั้งกลุ่มร้านอาหารและผู้บริโภคมีประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ อีกทั้งยังจะเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคทุกวันนี้ซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้มากขึ้น นอกจากนั้นยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในพอร์ตออร์แกนิกภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย”
นายพีรโชติกล่าวอีกว่า สำหรับตลาดต่างประเทศยังเป็นช่องทางหลักในการทำการตลาดของ “เมอริโต้” โดยมูลค่ารวมของสินค้ากะทิส่งออกอยู่ที่กว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่กะทิออร์แกนิกมีส่วนแบ่งประมาณ 1 ใน 5 โดยปัจจุบันนอกจากการส่งออกโดยตรงแล้วยังรับจ้างผลิตให้แก่แบรนด์อื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ โดยตลาดที่มียอดขายดีที่สุด 3 อันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอังกฤษ
“ในปีนี้เราจะพุ่งเป้าไปยังตลาดเออีซี เนื่องจากเห็นปัจจัยบวกทางด้านนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งจะยังคงมาตรฐานการเป็นกะทิออร์แกนิกแท้โดยใช้กรรมวิธีเกษตรอินทรีย์ จึงคาดว่าเมอริโต้จะยังครองตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหารออร์แกนิกต่อไป ทั้งยังคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในด้านความเป็นออร์แกนิกแท้ที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสและพิสูจน์ได้ในทุกขั้นตอน” นายพีรโชติกล่าวในตอนท้าย