ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดแว่นตาแฟชั่นทรุด สวนทางแว่นตาฟังก์ชันโต 15% “อายลิงค์” งัดแผนเพิ่มงบตลาด ยืดอายุเครดิตร้านค้า ขายแว่นเกาหลีเกาะกระแสเคป็อป พร้อมบุกเออีซี
นายประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิงค์ วิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งแว่นตา เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับแผนการทำธุรกิจแว่นตาในไทยเพื่อรองรับการแข่งขันรุนแรงจากมูลค่าการตลาดรวมของตลาดแว่นตาในไทยประมาณ 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นตลาดแว่นสายตา 5 พันล้านบาทยังเติบโตดี, แว่นตากันแดดและแว่นตาแฟชั่น 1 พันล้านบาท ซึ่งตกลงมากถึง 10-15%
ขณะที่ตลาดรวมแว่นตาฟังก์ชัน หรือแว่นตาใช้งานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มแว่นสายตาเป็นกลุ่มที่เติบโตดี โดยแบรนด์หลักที่ทำตลาดในไทยในกลุ่มนี้มีประมาณ 5 แบรนด์ เป็นของบริษัทฯ รับสิทธิ์มา 3 แบรนด์ คือ “ไอซี เบอร์ลิน” มีส่วนแบ่ง 60% หรือประมาณ 200 กว่าล้านบาท นอกจากนั้นยังมี “ซิลลูแอท” และ “มาคัสที” ส่วนอีก 2 แบรนด์ที่ติดท็อปไฟว์คือ “ลินด์เบิร์ก” และ “โฟร์ นาย” โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดแว่นตาฟังก์ชันใหญ่ที่สุดในกลุ่มเออีซี มีจำนวนประมาณ 3.5 หมื่นยูนิต แต่เป็นที่สองรองจากเกาหลีในเอเชีย
“บริษัทฯ เพิ่มงบการตลาดเป็น 10% จากเดิม 5% ของยอดขายเพื่อนำมาทำตลาดกลุ่มฟังก์ชันนัลที่มีระดับราคา 1.3-2 หมื่นบาทขึ้นไปผ่านการจัดจำหน่ายให้ดีลเลอร์และการทำโปรโมชันหน้าร้าน เป็นต้น”
ขณะที่กลุ่มแฟชั่นนั้น บริษัทฯ มีมากกว่า 20 แบรนด์ ยังคงทำตลาดต่อเนื่องเพราะคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ตลาดน่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งแต่จะปรับทิศมาเน้นกระแสมากขึ้น โดยล่าสุดได้รับสิทธิ์นำเข้าแบรนด์ “เอ็มซีเอ็ม” จากเกาหลี ที่เป็นที่นิยมในเวลานี้เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 3 ยังเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่จากเกาหลีเป็นกลุ่มแว่นตาแฟชั่นแต่ผลิตที่อิตาลี ระดับราคา 6 พัน-1 หมื่นบาท
นอกจากนั้นยังมีแผนช่วยเหลือคู่ค้าด้วยการยืดระยะเวลาการชำระเงินออกไปอย่างน้อย 1-2 เดือนจากเดิมเพื่อแบ่งเบาภาระและการทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการขายด้วย ส่วนดีลเลอร์โดยรวมของบริษัทฯ ปัจจุบันมีประมาณ 350 ราย โดย 1 ใน 3 หรือประมาณ 115 รายเป็นผู้จำหน่ายแบรนด์ “ไอซี เบอร์ลิน” ไม่มีแผนจะเพิ่ม แต่จะปรับลดลงประมาณ 15 ราย ให้เหลือ 100 รายเฉพาะที่สามารถทำตลาดได้เท่านั้น
บริษัทฯ ยังเตรียมขยายตลาดในกลุ่มซีแอลเอ็ม คือ กัมพูชา ลาว และพม่า โดยจะเจาะตลาดแว่นตาฟังก์ชันระดับพรีเมียม ด้วย 3 แบรนด์ที่ได้รับสิทธิ์ทำตลาดในไทยนานแล้ว คือ “ไอซี เบอร์ลิน”, “ซิลลูแอท” และ “มาคัสที” ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1 พันยูนิตต่อปี จากเดิมที่ทำตลาดแว่นตาแฟชั่นแมสทั่วไปหลายแบรนด์ในเออีซีผ่านดีลเลอร์ประมาณ 5-6 รายในแต่ละประเทศ โดยระดับราคาที่จำหน่ายที่ 1.5 หมื่นบาทต่อยูนิตขึ้นไป
นายประพันธ์กล่าวว่า ปีนี้คาดว่ายอดขายรวมของบริษัทฯ จะเติบโตประมาณ 15% จากรายได้รวมกว่า 300 ล้านบาทในปีที่แล้ว ส่วนตลาดเออีซีคาดว่าในช่วงแรกจะมีเพียง 15% จากรายได้รวมเท่านั้น
นายประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิงค์ วิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งแว่นตา เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับแผนการทำธุรกิจแว่นตาในไทยเพื่อรองรับการแข่งขันรุนแรงจากมูลค่าการตลาดรวมของตลาดแว่นตาในไทยประมาณ 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นตลาดแว่นสายตา 5 พันล้านบาทยังเติบโตดี, แว่นตากันแดดและแว่นตาแฟชั่น 1 พันล้านบาท ซึ่งตกลงมากถึง 10-15%
ขณะที่ตลาดรวมแว่นตาฟังก์ชัน หรือแว่นตาใช้งานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มแว่นสายตาเป็นกลุ่มที่เติบโตดี โดยแบรนด์หลักที่ทำตลาดในไทยในกลุ่มนี้มีประมาณ 5 แบรนด์ เป็นของบริษัทฯ รับสิทธิ์มา 3 แบรนด์ คือ “ไอซี เบอร์ลิน” มีส่วนแบ่ง 60% หรือประมาณ 200 กว่าล้านบาท นอกจากนั้นยังมี “ซิลลูแอท” และ “มาคัสที” ส่วนอีก 2 แบรนด์ที่ติดท็อปไฟว์คือ “ลินด์เบิร์ก” และ “โฟร์ นาย” โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดแว่นตาฟังก์ชันใหญ่ที่สุดในกลุ่มเออีซี มีจำนวนประมาณ 3.5 หมื่นยูนิต แต่เป็นที่สองรองจากเกาหลีในเอเชีย
“บริษัทฯ เพิ่มงบการตลาดเป็น 10% จากเดิม 5% ของยอดขายเพื่อนำมาทำตลาดกลุ่มฟังก์ชันนัลที่มีระดับราคา 1.3-2 หมื่นบาทขึ้นไปผ่านการจัดจำหน่ายให้ดีลเลอร์และการทำโปรโมชันหน้าร้าน เป็นต้น”
ขณะที่กลุ่มแฟชั่นนั้น บริษัทฯ มีมากกว่า 20 แบรนด์ ยังคงทำตลาดต่อเนื่องเพราะคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ตลาดน่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งแต่จะปรับทิศมาเน้นกระแสมากขึ้น โดยล่าสุดได้รับสิทธิ์นำเข้าแบรนด์ “เอ็มซีเอ็ม” จากเกาหลี ที่เป็นที่นิยมในเวลานี้เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 3 ยังเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่จากเกาหลีเป็นกลุ่มแว่นตาแฟชั่นแต่ผลิตที่อิตาลี ระดับราคา 6 พัน-1 หมื่นบาท
นอกจากนั้นยังมีแผนช่วยเหลือคู่ค้าด้วยการยืดระยะเวลาการชำระเงินออกไปอย่างน้อย 1-2 เดือนจากเดิมเพื่อแบ่งเบาภาระและการทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการขายด้วย ส่วนดีลเลอร์โดยรวมของบริษัทฯ ปัจจุบันมีประมาณ 350 ราย โดย 1 ใน 3 หรือประมาณ 115 รายเป็นผู้จำหน่ายแบรนด์ “ไอซี เบอร์ลิน” ไม่มีแผนจะเพิ่ม แต่จะปรับลดลงประมาณ 15 ราย ให้เหลือ 100 รายเฉพาะที่สามารถทำตลาดได้เท่านั้น
บริษัทฯ ยังเตรียมขยายตลาดในกลุ่มซีแอลเอ็ม คือ กัมพูชา ลาว และพม่า โดยจะเจาะตลาดแว่นตาฟังก์ชันระดับพรีเมียม ด้วย 3 แบรนด์ที่ได้รับสิทธิ์ทำตลาดในไทยนานแล้ว คือ “ไอซี เบอร์ลิน”, “ซิลลูแอท” และ “มาคัสที” ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1 พันยูนิตต่อปี จากเดิมที่ทำตลาดแว่นตาแฟชั่นแมสทั่วไปหลายแบรนด์ในเออีซีผ่านดีลเลอร์ประมาณ 5-6 รายในแต่ละประเทศ โดยระดับราคาที่จำหน่ายที่ 1.5 หมื่นบาทต่อยูนิตขึ้นไป
นายประพันธ์กล่าวว่า ปีนี้คาดว่ายอดขายรวมของบริษัทฯ จะเติบโตประมาณ 15% จากรายได้รวมกว่า 300 ล้านบาทในปีที่แล้ว ส่วนตลาดเออีซีคาดว่าในช่วงแรกจะมีเพียง 15% จากรายได้รวมเท่านั้น