xs
xsm
sm
md
lg

“BEAUTY” ขยาย “เซเว่นฯ-ออนไลน์” จ่อตั้งดีลเลอร์ตลาดฮ่องกง-ไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ( ที่ 2 จากซ้าย ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด(มหาชน) (BEAUTY)
ผู้จัดการรายวัน 360 - “BEAUTY” เดินหน้าบุกตลาด การันตีครึ่งปีหลังผลประกอบการนิวไฮต่อเนื่อง เล็งเจรจาพันธมิตรค้าปลีกเครื่องสำอางรายใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน เตรียมแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย Q4 นี้เพิ่มการขยายสาขาทั้งในประเทศและ CLMV ขณะที่ตลาดในประเทศเพิ่มสาขาทุก SHOPBRAND ขยายช่องทาง 7-11 และออนไลน์ โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกรายได้ 1,118.13 ล้านบาท โต 45.14% กำไรสุทธิ 267.95 ล้านบาท โต 57.97%

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าทุกรูปแบบทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจะมีการเติบโตและทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง

โดยแผนขยายสาขาในต่างประเทศได้ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 12 สาขา จากปัจจุบันมี 39 สาขา กระจายอยู่ในเวียดนาม 28 สาขา กัมพูชา 7 สาขา ลาว 2 สาขา และพม่า 2 สาขา ซึ่งการขยายสาขาต่างประเทศจะเป็นการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ร้านค้าปลีกเครื่องสำอางรายใหญ่มีจำนวนสาขากว่า 86 สาขาในประเทศฮ่องกง และ 16 สาขาในประเทศไต้หวัน เพื่อเซ็นสัญญาแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 4 ปีนี้

“การขยายตลาดในฮ่องกงและไต้หวัน เป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มรายได้ในส่วนต่างประเทศให้เติบโตเพิ่มขึ้น จากเดิมเราเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนามอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นการสร้างแบรนด์ให้ผลิตภัณฑ์ของ BEAUTY เป็นที่รู้จักในตลาดระดับนานาชาติ โดยมองว่าตลาดฮ่องกงและไต้หวัน มีแนวโน้มความต้องการขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภค และจำนวนประชากรในประเทศดังกล่าว” นายแพทย์สุวินกล่าว

ส่วนแผนการขยายสาขาในประเทศบริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดสาขา BEAUTY BUFFET จำนวน 30 สาขา BEAUTY COTTAGE จำนวน 15 สาขา และ BEAUTY MARKET จำนวน 10 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 323 สาขา โดยแบ่งเป็น BEAUTY BUFFET 239 สาขา BEAUTY COTTAGE 71 สาขา และBEAUTY MARKET 13 สาขา

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายช่องทางจำหน่ายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นโดยจัดจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน นำผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายแล้ว 900 สาขาทั่วประเทศ และมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะมีการรุกตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ ผ่าน Facebook Instragram และเว็บไซต์ต่างๆ โดยครึ่งปีแรกมียอดขายเติบโต 165% พร้อมทั้งเสริมทัพด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,118.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.14 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 770.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 267.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 169.62 ล้านบาท งวดไตรมาส 2/59 มีรายได้รวม 588.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 405.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 138.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 93.61 ล้านบาท

อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 59 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 89.57% ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดคิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 240 ล้านบาท กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 9 ก.ย. 59



กำลังโหลดความคิดเห็น