“พาณิชย์” เผยผู้นำอาเซียน-จีน เตรียมรับรองแผนความร่วมมือด้านการผลิตระหว่างกัน

“พาณิชย์” เผยการประชุมสุดยอดอาเซียน 6-8 ก.ย.นี้ ที่ สปป.ลาว จะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-จีนในการเพิ่มความร่วมมือด้านการผลิต เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างกัน พร้อมประกาศความคืบหน้าการเจรจา RCEP

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย. 2559 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จะมีการเสนอร่างแถลงการณ์ร่วมระหว่างอาเซียน–จีนว่าด้วยความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิต (ASEAN-China Joint Statement on Production CapacityCooperation) เพื่อให้ผู้นำอาเซียนและจีนรับรอง เป็นการแสดงเจตนารมณ์ระหว่างอาเซียนและจีนที่จะร่วมมือกันยกระดับภาคการผลิตในภูมิภาค เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างกัน

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ได้มีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมระหว่างอาเซียน–จีนว่าด้วยความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิต และให้ รมว.พาณิชย์ ร่วมรับรองเอกสารดังกล่าวในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559 ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน มีมติให้เสนอร่างแถลงการณ์ดังกล่าวให้ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนกับผู้นำของจีนรับรองในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 19 ซึ่งจะถือเป็นผลลัพธ์สำหรับการเฉลิมฉลองการครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-จีน

โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคธุรกิจในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิต สนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจผ่านการยกระดับภาคอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งด้านการผลิตและการบริโภค ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างมั่งคั่งและยั่งยืนร่วมกัน โดยจะเน้นร่วมมือในสาขาที่มีลักษณะเกื้อกูลกัน รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการลงทุนและทำธุรกิจ รวมทั้งจะสนับสนุนบทบาทของภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนความร่วมมือโดยให้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขของตลาด และสามารถทำได้หลายช่องทาง อาทิ ความร่วมมือทางการค้า การลงทุน โครงการต่างๆ รวมถึงเขตเศรษฐกิจและการค้า ที่เป็นที่ยอมรับของสากล ตามหลักการดำเนินธุรกิจและแนวทางปฏิบัติ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นางอภิรดีกล่าวว่า ในส่วนของประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP จะมีการประกาศแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจา “Joint Leaders’ Statement on the Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP)” ด้วย หลังจากที่สมาชิกได้เริ่มดำเนินการเจรจาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2556 และตั้งเป้าหมายให้การเจรจาแล้วเสร็จในปี 2559

โดยสถานะล่าสุดของการเจรจาขณะนี้ สมาชิกสามารถตกลงรูปแบบการลดภาษีสินค้ากลุ่มแรก และแนวทางการจัดทำข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุนได้แล้ว ทั้งนี้จะต้องเจรจาการเปิดตลาดสินค้าในส่วนที่เหลือ และแลกเปลี่ยนข้อเรียกร้องข้อเสนอการเปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุน ข้อบท และประเด็นทางเทคนิคอื่นๆ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ผู้นำของประเทศสมาชิก RCEP 16 ประเทศ จะออกแถลงการณ์ เพื่อประกาศความคืบหน้าการเจรจา RCEP ด้วย