xs
xsm
sm
md
lg

“บาจา” ชูไทยท็อป 15 ตลาดหลัก ส่ง 3 หมัดดันกำไรเพิ่ม 2 เท่าอีก 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ยอเล็กซิส นาซาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบาจาทั่วโลก (BATA)
ผู้จัดการรายวัน 360 - ซีอีโอ “บาจา” ยาหอมไทย เดินทางมาตรวจตลาดเป็นประเทศแรกหลังรับตำแหน่ง ลั่นเป็นตลาดยุทธศาสตร์ 1 ใน 15 ประเทศทั่วโลก วางแผนเพิ่มกำไรเป็น 2 เท่าในอีก 5 ปี พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 5% ในปี 63 ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก

นายอเล็กซิส นาซาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บาจา ทั่วโลก (BATA) เปิดเผยในโอกาสที่เดินทางมาสำรวจตลาดประเทศไทย ว่าหลังจากที่รับตำแหน่งนี้เมื่อเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมาได้เดินทางมาประเทศไทยเป็นตลาดแรกในต่างประเทศ เพราะประเทศไทยถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์หลักสำคัญ 1 ใน 15 ประเทศทั่วโลกของบาจาที่เหลือ เช่น อินเดีย แอฟริกาใต้ อิตาลี เป็นต้น ซึ่งบาจามีแผนที่จะผลักดันตลาดรองเท้าของบาจาในประเทศไทยให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลา 5 ปีจากนี้ (2560-2564)

ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักที่จะดำเนินการ คือ 1. การพัฒนาสินค้าและนำเสนอสินค้าที่เป็นที่ต้องการและตอบสนองตลาดได้ดี 2. การสร้างประสบการณ์ในการซื้อให้กับลูกค้า และ 3. กลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารการตลาด คาดหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มขอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดรองเท้าในไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดรองเท้าในไทย 3.7% โดยตั้งเป้าหมายภายในอีก 4 ปี หรือปี 2563 จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 35% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 5% จากตลาดรองเท้ารวมในไทย ส่วนครึ่งปีหลัง 2559 นี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 110%
คณะผู้บริหารระดับสูงของบาจา
ปัจจุบันบาจามีร้านค้าปลีกในไทยจำนวน 251 สาขาที่เป็นร้านบาจา และที่เป็นร้านฟุตอิน (FOOTIN) 25 ร้าน ซึ่งยังมีแผนในการขยายสาขาต่อเนื่อง และยังมีการขายผ่านออนไลน์ผ่านช่องทางของลาซาด้าด้วย รวมั้งมีแผนที่จะขยายการลงทุนในส่วนของโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและกำลังผลิตที่โรงงานเดิมที่มี 1 แห่งในไทย

ล่าสุดได้เปิดตัวรองเท้าบาจารุ่นใหม่ “เฮอริเทจ คอลเลกชัน” เป็นรองเท้าบาจาที่ได้รับความนิยมยอย่างต่อเนื่องมากว่า 122 ปี เรียกว่ารุ่น “บาจา บุลเล็ต” และ “บาจา เทนนิส” ที่บริษัทฯอยู่ระหว่างการพัฒนากลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตรธุกริจที่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เพื่อเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายบาจา เฮอริเทจ คอลเลกชันต่อไป รวมทั้งจะมีบาจารุ่นใหม่อื่นๆ ออกมาต่อเนื่องที่จะนำมาวางจำหน่ายในไทยอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ด้วยช่องทางการจำหน่ายแบบพิเศษเท่านั้น

“เมืองไทยถือได้ว่าเป็นตลาดแฟชั่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลก จึงยังคงมีโอกาสในการพัฒนาและขยายช่องทางจำหน่ายบาจาได้อีกมาก แม้ว่าตลาดรวมรองเท้าจะเติบโตต่ำมากแค่ 1-2% เท่านั้น น้อยกว่าค่าจีดีพี แต่นั่นก็ถือหมายถึงโอกาสที่จะทำให้ตลาดเติบโตได้ยังมีอีกมาก” นายอเล็กซิสกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น