ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกรัฐมนตรี และคณะพบปะชาวภูเก็ต และประชุม กรอ.อันดามัน พร้อมให้การสนับสนุนสิ่งที่แต่ละจังหวัดร้องขอ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ และงบประมาณ ทั้งถนน สะพาน และการพัฒนาด้านอื่นๆ เดินหน้าสั่งเคลียร์ปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ทัวร์ศูนย์เหรียญ และเร่งแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่ของชาเล หาดราไวย์
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางมาพบปะประชาชนชาวภูเก็ต โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวภูเก็ตให้การต้อนรับ เป็นจำนวนมาก
โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอโครงการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลมาดำเนินการ และบางโครงการขอให้ทางนายกรัฐมนตรีเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อให้การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตทันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสังคม ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาจากสนามบินภูเก็ต ถึงห้าแยกฉลอง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขแบบรายละเอียดของโครงการ โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการ ที่บ้านท่าฉัตรไชย ที่โครงการได้ถูกระงับ แต่ทางจังหวัดภูเก็ต ต้องการให้รัฐบาลนำโครงการนี้กลับมาใหม่ โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านสาคู่-เกาะแก้ว ที่กรมทางหลวง กำลังศึกษาออกแบบรายละเอียด โครงการขุดอุโมงค์ หรือทางลอดป่าตอง และทางยกระดับเชื่อมกับอุโมงค์ โครงการถนนสายป่าคลอก-สนามบิน และโครงการปรับปรุงถนนสายเลียบสนามบิน ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังพบปะประชาชนชาวภูเก็ตแล้วเสร็จ กลุ่มชาวเล หาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาชาวเล 2 เรื่องด้วย คือ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชาวเลหาดราไวย์ และการขอออกโฉนดชุมชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือดังกล่าวเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.ส่วนภูมิภาคภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง) เพื่อร่วมกันหารือด้านต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของฝั่งอันดามัน โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนจากส่วนกลาง และฝั่งอันดามันเข้าร่วม ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทางจังหวัดภูเก็ต และที่ประชุม กรอ.ได้นำเสนอขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาแต่ละจังหวัดนั้น ทางรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ทั้งในส่วนของโครงการที่เป็นการก่อสร้างถนน สะพาน และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็น และจะต้องเกิดขึ้นทางรัฐบาลจะเร่งดำเนินการในการจัดสรรงบประมาณให้ ส่วนโครงการที่จะต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็จะต้องพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ เพราะการพัฒนานั้นจะต้องมีความสมดุลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณให้พร้อมๆ กันทุกโครงการได้จากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด
“อย่างกรณีของจังหวัดภูเก็ตนั้น มีศักยภาพมากในการพัฒนา ทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว อาหารการกิน สมาร์ทซิตี โดยเฉพาะประชารัฐที่ได้มีการจัดตั้งเป็นบริษัทประชารัฐภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ที่เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งในเรื่องของล็อบสเตอร์ สับปะรด นมแพะ เป็นต้น แต่การพัฒนานั้นจะต้องไม่ลืมเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของภูเก็ต และผมจะรอดูภูเก็ตในอีก 5-10 ปีข้างหน้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการออกสารสิทธิที่ดินในจังหวัดภูเก็ต ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเพราะเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน ไม่สามารถแก้ปัญหาให้จบได้ในวันเดียว และในส่วนของปัญหานอมินีทัวร์จีน และทัวร์ศูนย์เหรียญก็เช่นกัน ได้สั่งการให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน มีการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญกันไปบ้างแล้ว
สำหรับปัญหาชาวเลที่ได้มายื่นหนังสือนั้น ได้รับหนังไว้แล้ว รัฐบาลจะจัดหาที่อยู่ให้ แต่เท่าที่ทราบที่อยู่ที่ทางหน่วยงานรัฐจัดให้นั้นชาวเลไม่ต้องการ ชาวเลยังคงยืนยันที่จะอยู่ที่เดิม ซึ่งมีข้อพิพาทกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์การถือครองที่ดินกันตามกฎหมาย และเอกสารหลักฐานของที่ดินต่อไป