MGR Online - ครอบครัว “โรจน์รุ่งรังสี” ร้อง รมว.ยุติธรรม ขอความเป็นธรรมหลังมารดาและน้องชายถูกฝากขังผิดฐานอั้งยี่และฟอกเงิน พร้อมยันบริษัท โอเอ ไม่เกี่ยวข้องทัวร์ศูนย์เหรียญ
สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ควบคุมตัวนางนิสา โรจน์รุ่งรังสี อายุ 61 ปี ประธานบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด และนายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 26 ปี กรรมการบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด สองแม่ลูกมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลังร่วมกันทำผิดร่วมกันเป็นสมาชิกอั้งยี่, ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยว และร่วมกันฟอกเงิน เป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13-24 ก.ย.นี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจนเสียหายต่อรูปคดี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 12.30 น. ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายโอฬาร โรจน์รุ่งรังสี อายุ 30 ปี ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด พร้อมด้วย น.ส.สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 34 ปี พี่ชายและพี่สาวของนายวสุรัตน์ได้เดินทางมายื่นเอกสารต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมหลังให้แก่มารดาและน้องชาย รวมทั้งบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด หลังมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยมีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง
นายธวัชชัยกล่าวว่า บริษัทผู้ประกอบการเดินทางมาร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความเป็นธรรมว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญ และยินดีร่วมมือปราบทัวร์ศูนย์เหรียญในประเทศไทยด้วย อีกทั้งได้ยื่นเรื่องที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม โดยตนเองเป็นผู้รับผิดชอบจะขอรับเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร และต้องปรึกษากับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ก็พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนคดีความผลจะออกมาผิดหรือถูกก็ต้องว่ากันไป
ด้านนายโอฬารเปิดเผยว่า มารดาและน้องชายตนถูกฝากขังที่ศาลอาญาเมื่อวานนี้หลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยทางทนายได้ยื่นเงินประกันคนละ 1 ล้านบาท แต่ถูกคัดค้านประกันตัวจึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมเพื่อพิสูจน์ความจริง โดยตนเป็นคนไทยให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมชุมชนมาตลอด 35 ปี และพร้อมสนับสนุนส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล แต่แล้วมารดาและน้องชายกลับถูกตั้งข้อหาดังกล่าวก่อนถูกอายัดทรัพย์สินในขณะนี้ รวมทั้งมารดาและน้องชายตนก็ถูกอายัดอิสรภาพเรียบร้อยแล้ว
“บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด และบริษัท รอยัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ดำเนินการเกี่ยวกับบริการขนส่งและห้างร้านค้าอัญมณีซึ่งได้รับรางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เรื่องของฝากดีเด่น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อีกทั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทัวร์ศูนย์เหรียญแต่อย่างใด โดยทางบริษัทได้ให้หน่วยงานราชการตรวจสอบและมีเอกสารออกมาเรียบร้อยแต่เมื่อทำการพิสูจน์พบว่าได้มีการสวมบัตรปลอมและถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม คิดว่าอาจมีบางบริษัทใช้ชื่อคล้ายคลึงกันจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม การที่มีผู้ร้องเรียนว่าขายสินค้าเกินราคานั้นบริษัทสามารถชี้แจงได้ว่าสินค้ามีราคาสมเหตุสมผล โดยเราซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการไทยระดับชุมชนที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม” นายโอฬารกล่าว
ขณะที่ พล.อ.อภิชัย หงษ์ทอง เลขานุการ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จะตรวจสอบเรื่องและพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่เป็นคนไทยในเรื่องที่กล่าวว่าเป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ และได้นำเรียนให้ พล.อ.ไพบูลย์ทราบแล้ว ส่วนกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมในคราวต่อไป