xs
xsm
sm
md
lg

ปั้นกาแฟรถสามล้อ “สตรีทคอฟฟี่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 - “คอปเปอร์ คราวน์” หวังปีนี้เติบโต 50% ล่าสุดเปิดตัวแฟรนไชส์รถกาแฟสามล้อ เจาะกลุ่มตลาดล่างเสริมทัพ จ่อเพิ่มกำลังผลิตเมล็ดกาแฟคั่วบด

นางจุฬาวัลย์ พงษ์สุทธิมนัส กรรมการบริหาร บริษัท คอปเปอร์ คราวน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2559 นี้ไว้ที่ 150 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 80 กว่าล้านบาท หรือเติบโต 50% สัดส่วนรายได้มาจาก ธุรกิจกาแฟ 70% ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟ, กาแฟคั่วบด, ไซรัป, เครื่องชงกาแฟ และร้านกาแฟสตาฟ คอฟฟี่ กับธุรกิจที่ไม่ใช่กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Non Coffee Line) จำนวน 30% เช่น ธุรกิจเบเกอรี, แป้งพัฟเพรสตรี และน้ำมะพร้าวกระป๋อง ZEN-CO

เนื่องจากมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้ใช้งบลงทุนรวม 20 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “สตรีท คอฟฟี่” (Street Coffee) รถขายกาแฟรูปแบบใหม่รถจักรยานสามล้อไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ตัวรถมีขนาดความยาว 2 เมตร และด้านข้างยาว 1 เมตร เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายให้ผู้ที่ว่างงาน หรือต้องการรายได้เสริมสามารถนำไปประกอบอาชีพได้

โดยลงทุน 99,000 บาท และจะได้รับอุปกรณ์รวมกว่า 40 รายการ ไม่มีค่าแฟรนไชส์ และอื่นๆ ซึ่งสามารถลงทุนแบบผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน หรือเดือนละ 9,900 บาท โดยรับซื้อวัตถุดิบทั้งกาแฟและอื่นๆ จากทางบริษัทฯ คาดว่าคืนทุนใน 3 เดือน ซึ่งจะมีทั้งเมนูร้อน-เย็น รวมแล้ว 16 เมนู กำหนดราคาขายปลีกทุกเมนูไว้ที่แก้วละ 30 บาท ขนาด 20 ออนซ์สำหรับเครื่องดื่มเย็น ซึ่งราคาดังกล่าวเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 15 บาทต่อแก้ว ตั้งเป้าหมายปีนี้ขายแฟรนไชส์ 50-100 สาขา ซึ่งบริษัทฯ ลงทุนทดลองเปิดเป็นตัวอย่าง 2 สาขาที่ ซ.อารีย์ และพญาไท เดือนหน้า
ส่วนธุรกิจร้านสตาฟคอฟฟี่ของบริษัทฯ จะลงทุนเอง ปีนี้จะเปิดอีก 5 สาขา ปัจจุบันมีแล้ว 11 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อสาขา เจาะกลุ่มเป้าหมายคนทำงานออฟฟิศทั่วไป ขณะที่กาแฟคั่วบดนั้น ปัจจุบันผลิตได้ 7 ตันต่อเดือน ที่โรงงานนวนคร เพื่อเป็นซัปพลายให้ลูกค้าที่มีธุรกิจร้านกาแฟ คาดว่าจะต้องเพิ่มกำลังผลิตอีกเร็วๆ นี้ รองรับการเติบโตหลังจากการขายแฟรนไชส์สตรีทคอฟฟี่

สตรีท คอฟฟี่ เป็นนวัตกรรมแฟรนไชส์รูปแบบใหม่ที่พร้อมตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใช้รถไฟฟ้า 3 ล้อ และหม้อต้มแรงดันสตรีทพ็อต Street Pot ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในยุโรป โดยเฉพาะที่อิตาลี โดยกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ลูกค้าที่สนใจร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มองหาทางเลือกธุรกิจใหม่ๆ ที่ลงทุนน้อย ความเสียงต่ำ คืนทุนเร็ว และกลุ่มลูกค้าที่มองหาเครื่องดื่มคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมสามารถดื่มได้จริงในชีวิตประจำวัน

นวัตกรรมรถไฟฟ้า 3 ล้อเน้นการดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย ใช้วัสดุเกรดสูงเพื่อความทนทาน เช่น โครงสร้างรถใช้เหล็กชุบกัลวาไนซ์กันสนิม เจาะโลโก้ด้วยเครื่องเลเซอร์ทำให้งานมีความประณีตสวยงาม ด้านบนท็อปเคาน์เตอร์ที่ต้องใช้งานหนักเลือกใช้สเตนเลสเพื่อรองรับน้ำและการกระแทกทุกรูปแบบ โดดเด่นแตกต่างจากร้านกาแฟที่คุ้นตาในประเทศไทย ใช้โทนสีเหลืองมาเป็นจุดจดจำให้แก่ลูกค้า รูปแบบเดียวกับร้านกาแฟริมทางในยุโรป แต่ปรับขนาดและรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของไทย รถมีขนาดยาว 2 เมตร กว้าง 1 เมตร เหมาะสมกับสภาพตรอกซอกซอย สามารถเข้าถึงได้ง่ายตามแหล่งชุมชน ย่านธุรกิจที่มีคนสัญจรไปมา หรือตลาดทั่วไป มีหลังคาผ้าใบกันแดดกันฝน และการนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้เพื่อช่วยผ่อนแรงให้พนักงานประจำรถให้เดินทางได้สะดวกคล่องตัวขึ้น

การเลือกใช้หม้อต้มแรงดันสตรีทพ็อต Street Pot เนื่องจากหม้อต้มประเภทนี้เป็นหม้อต้มที่มีความทนทานสูง บำรุงรักษาง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้ร่วมธุรกิจสามารถเรียนรู้การใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ใช้หลักการแรงดันไอน้ำเพื่อกลั่นกาแฟเอสเพรสโซเช่นเดียวกับเครื่องชงขนาดใหญ่ ต่างกันเพียงแรงดันไอน้ำที่ต่ำกว่า ระบบการสร้างแรงดันและวิธีการชง ซึ่งวิธีการนี้ให้รสชาติของกาแฟที่มีความเสถียรใกล้เคียงกว่าการใช้เครื่องชงขนาดใหญ่ ที่สำคัญที่สุดคือการตอบโจทย์เรื่องการเคลื่อนที่ ย้ายทำเลไปขายยังที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้เตาแก๊สในการต้มกาแฟ ต่างจากร้านกาแฟทั่วไปที่ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ขาดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ซึ่งโจทย์ข้อนี้เป็นอีกประเด็นสำคัญที่คอปเปอร์คราวน์ให้ความสำคัญในการพัฒนารูปแบบแฟรนไชส์สตรีทคอฟฟี่ให้มีความสมบูรณ์แบบลงตัวที่สุด



กำลังโหลดความคิดเห็น