xs
xsm
sm
md
lg

พลังวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟชุมพร เดินหน้าแปรรูปครบวงจร ก้าวสู่ตลาดอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - พลังวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟชุมพร นำผลผลิตมาต่อยอดแปรรูปครบวงจร เกษตรจังหวัดเผยส่งขายทั่วประเทศ เพิ่มมูลค่าปีละกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดอาเซียน

กาแฟถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก ที่มีประชากรทั้งชาย หญิงบริโภคกันจำนวนมาก จังหวัดชุมพร ถือเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่รวมกันเกือบร้อยละ 80 ของพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งประเทศ ปัจจุบัน ทำให้มีกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกกาแฟของแต่ละชุมชนได้รวมตัวกันเพื่อจัดตั้งธุรกิจกาแฟชุมชนกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ผลิตผลกาแฟนำรายได้เข้าจังหวัดปีละร่วมหมื่นล้านบาท ปัจจุบัน เกษตรกรขายเมล็ดกาแฟได้ราคากิโลกรัมละ 80 บาท ทำรายได้ให้แก่จังหวัดชุมพรไม่น้อยกว่าพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น

นอกจากนั้น การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศไทย จังหวัดชุมพร จึงต้องวางแผนที่จะยกระดับกาแฟชุมพร สู่ตลาดสากลด้วยการวางแนวทางในการพัฒนากาแฟ เริ่มจากการทำวิจัยเพื่อหาจุดเด่น จุดด้อย และโอกาสของกาแฟชุมพรกับธุรกิจภายในประเทศเพื่อพัฒนาธุรกิจกาแฟชุมพรทั้งระบบ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการสร้างแบรนด์ เพื่อผลักดันให้เข้าสู่ตลาดกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน

ดังเช่นตัวอย่างวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ ตั้งอยู่เลขที่ 18 หมู่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ก่อตั้งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ 2551 โดยมี นายนิคม ศิลปศร ประธานกลุ่มฯ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ได้รับยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งกาแฟปรุงสำเร็จรูป ถ้ำสิงห์ 4 in 1 สูตรผสมดอกคำฝอย กาแฟถ้ำสิงห์ 3 in 1 กาแฟคั่วบด และอีกหลายผลิตภัณฑ์จากกาแฟซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางกลุ่มคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ได้มาตรฐานการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน มาตรฐาน อย. มาตรฐานผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว และได้รับเครื่องหมายฮาลาล และยังเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ส่งผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้

นายนิคม ศิลปศร นายก อบต.ถ้ำสิงห์ ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ กล่าวว่า ปัจจุบัน มีทางกลุ่มฯ มีสมาชิกปลูกกาแฟในพื้นที่ตำบลถ้ำสิงห์ จำนวน 2,200 ไร่ มีการส่งเสริมให้ความรู้ในการปลูกกาแฟ เพาะพันธุ์กาแฟคุณภาพ และมีการแจกจ่ายพันธุ์กาแฟแก่สมาชิกรายละ 100 ต้นทุกปี ที่ผ่านมา ทางกลุ่มฯ สามารถรับผลผลิตกาแฟจากสมาชิกได้ทั้งหมดปีละ 87 ตัน โดยไม่ต้องไปพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง หรือตลาดภายนอกพื้นที่แต่อย่างใด เราสามารถนำผลผลิตกาแฟทั้งหมดมาต่อยอดแปรรูปครบวงจรเพิ่มมูลค่าในรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน และอนาคตพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดอาเซียน

ด้าน นายสุรสิทธิ์ สิงหพรพงศ์ เกษตรจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จังหวัดชุมพร มีเกษตรกรปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 125,000 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยวผลิตได้ผลแล้วประมาณกว่า 90,000 ไร่ ได้ผลผลิตปีละกว่า 2,000 ตัน มูลค่าจากการจำหน่ายเมล็ดกาแฟประมาณ 800 ล้านบาท ปัจจุบัน มีเกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน นำผลผลิตกาแฟมาแปรรูปเป็นแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ล้านบาท สำหรับบทบาทของสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนเรื่องการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพ และจังหวัดชุมพร ให้การสนับสนุนงบประมาณด้านต่างๆ จนถึงขณะนี้จังหวัดชุมพรมีผลผลิตกาแฟที่แปรรูปในชื่อยี่ห้อต่างๆ เป็นของชุมชนตนเองประมาณ 10 แบรนด์ สามารถทำตลาดส่งไปขายทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดเป็นอย่างมาก

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น