บอร์ด กพช.นำโดยนายกรัฐมนตรีเตรียมชมนิทรรศการรถยนต์ ไฟฟ้า (EV) ก่อนการประชุมพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) คาดที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้าแผนสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า การขยายกรอบซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ขณะที่ กพช.เคาะซื้อไฟจากขยะอุตสาหกรรม
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เปิดเผยว่า การประชุม กพช.ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 10 ส.ค. ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่อง การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย ซึ่งอยู่ในแผนลดการใช้พลังงานระยะยาวของประเทศ ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้กำหนดกรอบค่าไฟฟ้าระบบทีโอยูของอุตสาหกรรมขนาดกลางมารองรับในส่วนของโครงการนำร่องก่อน อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุม กพช.จะมีการนำนายกรัฐมนตรีและบอร์ด กพช.ชมนิทรรศการด้าน EV ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องการเตรียมขยายกรอบการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว จาก 7,000 เมกะวัตต์ เป็น 9,000 เมกะวัตต์ หลังจากนั้นจะเสนอ ครม.เพื่อให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูร่วมกันระหว่างไทยกับ สปป.ลาวต่อไปเตรียมพร้อมด้านไฟฟ้าตามแนวพื้นที่เขตเศรษฐกิจชายแดนที่รัฐบาลส่งเสริม, การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต ในโครงการให้ใช้ไฟฟรีสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ รองผู้ว่าการนโยบายและแผน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทดลองดัดแปลงรถยนต์รุ่นเก่าด้วยการยกเครื่องใหม่ ซึ่งได้ทดลองกับรถยนต์ 2 รุ่น คือ โตโยต้าวีออส และฮอนด้าแจ๊ซ ซึ่งการทดลองระยะที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และสามารถนำมาขับได้จริง โดย กฟผ.จะนำรถดังกล่าวไปนำเสนอและให้นายกรัฐมนตรีทดลองขับที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนประชุม กพช.
สำหรับการยกเครื่องรถยนต์ EV ดังกล่าวใช้เงินลงทุนประมาณ 2 แสนบาทต่อคัน โดยราคาจะสูงกว่านี้หากใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าขนาดความจุสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กฟผ.จะต้องทดลองระยะที่ 2 ต่อไป เพื่อให้สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกยี่ห้อ ซึ่งคาดว่าในอีก 2-3 ปีจากนี้จะทดลองเสร็จสมบูรณ์ และหากสำเร็จจะนำไปเป็นรถยนต์ต้นแบบให้ผู้ประกอบการที่สนใจนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า กกพ.จะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed in Tariff หรือ FiT โดยเปิดให้ผู้สนใจยื่นได้ที่สำนักงาน กกพ.(กรุงเทพ) ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ย. 2559 ระหว่างเวลา 09.00-12.00 และ 13.00-15.30 น. เฉพาะวันทำการ โดยสามารถตรวจสอบจุดเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน. และ กฟภ.) ได้ระหว่างวันที่ 9-19 สิงหาคม 2559 และสามารถขอรับแบบคำขอผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกพ. ที่ www.erc.or.th หรือสามารถมารับได้ด้วยตนเอง ณ สำนักงาน กกพ. (กรุงเทพฯ) หรือสำนักงาน กกพ.ประจำเขต ทั้ง 13 เขตทั่วประเทศ