“พาณิชย์” ชง ครม.2 ส.ค. ตั้งสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม ของบ 750 ล้าน ลุยปั้นข้าวเป็นซูเปอร์ฟูดส์ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าค้าขาย 2 หมื่นล้านใน 5 ปี มีสินค้าข้าวที่เกิดจากการใส่นวัตกรรมไม่น้อยกว่า 10 รายการ นำร่องปีแรก 2 รายการ ทำน้ำมันจากข้าวและแป้งข้าว
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ส.ค. 2559 พิจารณาให้ความเห็นชอบจัดตั้งสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม โดยจะของบประมาณสนับสนุนในการดำเนินการ 5 ปี วงเงิน 750 ล้านบาท โดยตั้งเป้าผลักดันสินค้าเกษตรนวัตกรรมออกสู่ตลาดอย่างน้อย 10 รายการ และมีมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี ซึ่งในปีแรกจะนำร่องผลักดันสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างน้อย 2 รายการ คือ น้ำมันจากข้าวและแป้งที่ทำจากข้าว
“สถาบันฯ ที่จะตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์จะมีหน้าที่ในการสร้างตลาดและกระตุ้นความต้องการสินค้าเกษตรนวัตกรรม ซึ่งจะเริ่มจากสินค้าข้าวก่อนขยายไปสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น”
น.ส.ชุติมากล่าวว่า สำหรับหน้าที่ของสถาบันฯ จะทำงานโดยใช้หลักการตลาดนำการผลิตตามทฤษฎี Demand Driven เป็นการทำการตลาดเชิงรุก โดยจะคิดค้นและวิจัยสินค้าที่ตรงตามความต้องการของตลาด และผลักดันให้ผู้บริโภคอยากทดลองใช้ และทำให้รู้จักคุณค่าและเรื่องราวของสินค้า จากนั้นจะไปหาผู้ผลิต ให้เข้ามาผลิตสินค้า ซึ่งจะสนับสนุนทั้งด้านการเชื่อมโยงให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน อำนวยความสะดวกในการขอมาตรฐานต่างๆ และยังจะช่วยในการทำตลาด เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมาขายได้
ส่วนสินค้านำร่อง 2 รายการที่จะผลักดันให้มีการวิจัยและนำไปลงทุนผลิตเป็นสินค้านั้น ในส่วนของน้ำมัน มีหลายขั้น เริ่มจากผลักดันให้ผลิตเป็นนำมันรำข้าว ซึ่งใช้สำหรับผัด ทอด เจียว และจะต่อยอดให้เป็นอาหารเสริม ที่จะบริโภคเพื่อลดความดัน ลดเบาหวาน และทำให้ดีขึ้นไปอีก คือ การทำเป็นยา ส่วนแป้ง จะผลักดันให้ทำโปรตีนจากแป้งข้าว ทำเป็นส่วนผสมในการทำยา ใช้ทำอาหารสำหรับทารก เด็ก คนแก่ และนักกีฬา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีเอกชนเริ่มมีการลงทุนแล้ว แต่จะผลักดันให้มีการลงทุนมากยิ่งขึ้น
น.ส.ชุติมากล่าวว่า สถาบันฯ ที่จะตั้งขึ้นจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก มีบุคลากรมืออาชีพและมีความคล่องตัวสูง ประกอบด้วยผู้อำนวยการเป็นผู้บริหารสถาบันฯ และมีเจ้าหน้าที่ 14 คน ปฏิบัติงานภายใต้การกำกับของคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ ซึ่งจะมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเป็นคณะกรรมการ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และยังเชื่อมโยงการทำงานกับคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ และคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นต้น และมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภาควิชาการ เอกชน และเกษตรกร ร่วมเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการจัดตั้งสถาบันฯ ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท กมลกิจ จำกัด ซึ่งปัจจุบันผลิตน้ำมันรำข้าว และบริษัท เมดิฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันผลิตสินค้าที่ทำจากข้าวหลายชนิด และทำตลาดส่งออกในหลายประเทศ