xs
xsm
sm
md
lg

“แสนสิริ” ต่อยอดค้าปลีก เติมบริการลูกค้าโครงการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดการรายวัน 360 - ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ “แสนสิริ” ทุ่มทุนสร้าง 400 ล้านบาท เปิดให้บริการ “ฮาบิโตะ” รีเทล มอลล์ ไลฟ์สไตล์ ขนาดพื้นที่รวม 1 หมื่น ตร.ม. กลางโครงการ T77 รวม 30 ไร่ย่านอ่อนนุช หวังเติมเต็มบริการลูกค้าโครงการกว่า 5 พันครัวเรือน คาดมีผู้ใช้บริการรวม 5 พันคนต่อวัน ก่อนคืนทุนใน 12 ปี วาดแผนธุรกิจอาจผุดโครงการใหม่ใน 3 ปี

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงสร้างธุรกิจและรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นที่พักอาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง ด้วยสัดส่วน 99% ส่วนที่เหลือ 1% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงแรม โดยล่าสุดได้เปิดโครงการรีเทล มอลล์ ไลฟ์สไตล์ ภายใต้ชื่อ “ฮาบิโตะ” (HABITO) ภายใน ซ.อ่อนนุช 1/1 บนพื้นที่ 4 ไร่ของโครงการ T77 โดยใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท

โครงการ “ฮาบิโตะ” (HABITO) มีขนาดพื้นที่ 1 หมื่น ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่เช่าตั้งแต่ 500-700 ตร.ม. รวมทั้งสิ้น 5.5 พัน ตร.ม. คิดเป็นจำนวนร้านค้า 32 ร้าน แบ่งสัดส่วนเป็นร้านอาหารนานาชาติและเครื่องดื่ม (Food&Beverage)35% ธุรกิจออกกำลังกาย (Activity) 25% Co-Working Space 15% ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เกต 10% ร้านอาหารและบาร์ (Bar&Bistro) 9% และอื่นๆ เช่น ร้านขายยา ร้านเสริมความงาม ธนาคาร 6% ล่าสุดมีผู้เช่าพื้นที่โครงการแล้ว 90% และเปิดให้บริการแล้ว 70% คาดว่าจะเปิดให้บริการครบ 100% ภายในเดือน ก.ค.ศกนี้ พร้อมกำหนดระยะเวลาคืนทุน 12 ปี

“บริษัทฯ กำหนดค่าเช่าพื้นที่ในอัตรา 750-1,500 บาทต่อ ตร.ม. ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 40 ล้านบาทต่อปีซึ่งหากเทียบกับรายได้รวมแล้วถือว่าน้อยมากเพียง 0.15% แต่สิ่งที่ได้กลับมีมูลค่ามากกว่านั้น เพราะเท่ากับเป็นการส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีแก่ลูกค้าในโครงการ T77 ทั้งยังเป็นการเพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุนในโครงการแสนสิริอันจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของที่ดินในอนาคต”

โครงการ “ฮาบิโตะ” มีจุดเด่นด้านจำนวนฐานลูกค้าที่พักอาศัยภายในโครงการ T77 ของ “แสนสิริ” ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 5 แห่ง และทาวน์เฮาส์ 1 แห่ง บนพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ มีผู้พักอาศัยรวม 5 พันครัวเรือน เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 25-40 ปี ประมาณ 70% ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 90% อยู่ในวัยทำงาน 49% เป็นเจ้าของธุรกิจ 18% อยู่ในระดับผู้จัดการ 13% ระดับผู้จัดการระดับกลาง 13% และผู้จัดการระดับสูง 7% ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ย 7 หมื่นบาทต่อเดือน ประมาณ 75% โดยส่วนใหญ่ 61% พักอาศัยคนเดียว พักอาศัยร่วมกับสามี-ภรรยา 14% พักอาศัยร่วมกับเพื่อน 13% และมีบุตรหลาน 12%

“ภายในโครงการยังมีชาวต่างชาติเช่าพักอาศัยประมาณ 20% ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ขณะเดียวกันยังสามารถรองรับการใช้บริการจากชุมชนโดยรอบในรัศมี 3 กม. ประมาณ 1 หมื่นครัวเรือน ทั้งยังมีสถิติตรวจวัดจำนวนรถยนต์ที่ใช้เส้นทาง ซ.อ่อนนุช 1/1 เป็นทางลัดไปยังถนนพัฒนาการ โดยเสียค่าผ่านทางคันละ 20 บาท วันละประมาณ 2 พันคัน บริษัทฯ จึงวางเป้าหมายเป็นศูนย์รวมครีเอทีฟไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติ โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการทั้งในส่วนของลูกค้าในโครงการ T77 และบุคคลภายนอกเป็นไปตามเป้าหมายคือประมาณวันละ 5 พันคน”

นายอุทัยกล่าวด้วยว่า เบื้องต้นบริษัทฯ ยังไม่มีแนวคิดจะขยายธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์เพิ่มขึ้น แต่ถือเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่อาจมีการทบทวนความเป็นไปได้ภายใน 3 ปี โดยจะเน้นพิจารณาพื้นที่โครงการของ “แสนสิริ” เป็นหลัก ทั้งโครงการที่พักแนวสูงที่มีผู้พักอาศัยประมาณ 3 พันครัวเรือน หรือโครงการที่พักแนบราบติดถนนใหญ่ จำนวน 3-4 หมู่บ้าน รวมผู้พักอาศัยอย่างน้อยประมาณ 300 ครัวเรือน โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 3-4 ไร่



กำลังโหลดความคิดเห็น