ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดทีวี-โฮมชอปปิ้ง 1 หมื่นล้านบาทแข่งรุนแรง TVD เปิดแขนรับพันธมิตร “ไตร-สเตท” จากญี่ปุ่นถือหุ้น 15% เสริมแกร่งผ่าน 6 กลยุทธ์หลัก
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ในปี 2558 ตลาดทีวีชอปปิ้งและโฮมชอปปิ้งในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 6 พันล้านบาท และคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยแล้วเติบโตอย่างต่ำ 20% ต่อปีและยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง
จากเดิมที่ก่อนนี้ช่วงปี 2554-2556 ตลาดรวมค่อนข้างตกลง หรือไม่ก็เติบโตต่ำมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเติบโตของออนไลน์เข้ามาแย่งตลาดไป แต่ในระยะยาวแล้วตลาดรวมโฮมชอปปิ้งกับทีวีชอปปิ้งยังมีอนาคตอีกมาก โดยปัจจุบันตลาดนี้มีมูลค่าเพียง 0.7% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมดที่มีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ล่าสุดบริษัทฯ ได้พันธมิตรใหม่ คือ บริษัท ไตร-สเตท อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น หรือ TS เข้ามาถือหุ้น 15% หรือประมาณ 97.5 ล้านหุ้น โดยมี นายยูทาโร่ ซูซูกิ เข้ามาเป็นกรรมการเพียงคนเดียว ซึ่งถือเป็นบริษัททีวีชอปปิ้งอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจตลาดแบบตรงครบวงจรเพื่อเสริมศักยภาพของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าทุกวันนี้ TVD จะยังคงเป็นผู้นำกว่า 40-50% ในตลาดรวมที่มีมากกว่า 8 พันล้านบาทจากผู้เล่นรายหลักในตลาดกว่า 7-8 ราย ส่วนอันดับ 2 คือ “โอชอปปิ้ง” มีส่วนแบ่งประมาณ 20% แต่ก็แข่งขันกันรุนแรง
ทั้งนี้ “ไตร-สเตท” จะเข้ามาร่วมกันใน 6 แผนงานหลัก คือ 1. การนำความรู้ด้านไดเรกต์มาร์เกตติ้งมาปรับปรุงพัฒนาฐานข้อมูล 2. การปรับปรุงวิธีการผลิตรายการแนะนำสินค้า 3. การร่วมมือให้บริการตลาดแบบตรงในไทยสำหรับลูกค้าและสินค้าจากญี่ปุ่น 4. การแบ่งปันข้อมูลแนวทางธุรกิจการซื้อขายสินค้าทางทีวีระหว่างกัน 5. การใช้ช่องทางของ “นิปปอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์” ซึ่งเป็นร้านค้าของ “ไตร-สเตท” ในญี่ปุ่นเพื่อขายสินค้าโอทอปพรีเมียมของไทย และ 6. การเสริมฐานทางการเงินให้กับ TVD
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าจำหน่ายประมาณ 1.5 พันเอสเคยู แบ่งเป็นสินค้าไทย 40% และสินค้านำเข้า 60% คาดว่าหลังจากนี้สัดส่วนจะเปลี่ยนไป โดยจะมีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นมากขึ้น ส่วนอัตราการซื้อสินค้าของลูกค้าต่อคนต่อครั้งจากช่องทางต่างๆ ของบริษัทฯ เฉลี่ยผ่านทางทีวีชอปปิ้งประมาณ 3 พันบาท ผ่านทางเมลออเดอร์ประมาณ 6 พันบาท ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 1.5 พันบาท ผ่านทางออนไลน์ประมาณ 1.8 พันบาท
นายทรงพลกล่าวด้วยว่า ผลประกอบการในปี 2558 ทำได้ประมาณ 2.8 พันล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 15% แต่ทำได้ 20% ขณะที่ปี 2559 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 7% หรือประมาณ 3.2 พันล้านบาท กำไรขั้นต่ำ 3% แต่คาดว่าหลังจากที่มีพันธมิตรใหม่เข้ามาจะทำให้เติบโต 20% และหลังจากนี้ไปจะเติบโตเฉลี่ย 20-25%
ด้าน นายยูทาโร่ ซูซูกิ ผู้อำนวยการและกรรมการอาวุโส บริษัท ไตร-สเตท อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ช่วยต่อยอดธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งสองในอนาคต และทำให้ “ไตร-สเตท” สามารถขยายธุรกิจในตลาดอาเซียนมากขึ้น โดยใช้ TVD เป็นฐานธุรกิจและใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายศึกษารูปแบบการขยายธุรกิจ คาดว่าจะเห็นผลได้ภายในปี 2560