“สมชาย” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเผยอุตฯ หุ่นยนต์ในไทยเพิ่งตั้งไข่ ขอตั้งโรงงานแค่ 2 รายลงทุน 9 ล้านบาท ยันอีกนานกว่าจะเข้ามาแทนที่แรงงานคน การก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ค่อยเป็นค่อยไป
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความกังวลกรณีที่ภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวนำเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานคนในประเทศจนกระทบให้คนตกงานนั้นไทยยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรเพราะการเปลี่ยนผ่านของไทยที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0ที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้นั้นจะต้องค่อยๆก้าวผ่านไปทีละขั้นตอนเนื่องจากอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นอุตสาหกรรม 2.0และ3.0 และที่สำคัญคืออุตสาหกรรมหุ่นยนต์และแขนกลในประเทศไทย ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2557-2558) เพิ่งมีการออกใบอนุญาต ร.ง.4 เพียงแค่ 2 ราย รวมเงินลงทุน 9 ล้านบาท จ้างคนงาน 186 คน เท่านั้น
“การก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 คงจะเริ่มจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก่อน เพราะมีความพร้อมด้านเงินทุน และได้ปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบอัตโนมัติร่วมกับแรงงานคนแล้ว สำหรับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ที่เป็นเอสเอ็มอี ได้เปลี่ยนจากที่เคยใช้แรงงานเข้มข้น มาใช้คนร่วมกับเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ทำให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ซึ่งทั้งหมดก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปเหมือนที่หลายประเทศที่พัฒนาแล้วก็เป็นเช่นกัน” นายสมชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ได้มีแผนรองรับและผลักดันภาคการผลิตไทยให้เปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยได้พิจารณาบนพื้นฐานที่ประเทศไทยและคนไทยต้องได้อะไร เช่น คนงาน ได้พัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูง ได้รับรายได้สูงขึ้น ภาคอุตสาหกรรมมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น สิ่งแวดล้อมและสังคม ดีขึ้นเพราะโรงงานใหม่เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคนไทย ได้สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตนเอง มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
นอกจากนี้ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SMEs Rescue Center) ในเวลา 13.30-16.00 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอีรวมทั้งสถาบันการเงิน มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเอสเอ็มอีผู้ประสบปัญหาธุรกิจในทุกด้าน รวมถึงด้านการเงิน และธุรกิจที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู