xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ก.อุตสาหกรรมยันยืนตามมติ 4 กระทรวงหลักกรณีเหมืองอัคราฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระทรวงอุตสาหกรรมแจงทำตามมติ 4 กระทรวงหลักกรณีเหมืองทองอัคราฯ ชี้ที่ผ่านมามีการแก้ไขรายละเอียดบางประการเท่านั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมติหลักแต่อย่างใด โดยไม่อนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ การประทานบัตรและการขอต่ออายุประทานบัตร


นายสมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 เกี่ยวกับผลการรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแก้ไขปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) ว่า เป็นการแก้ไขรายละเอียดบางประการแต่กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงดำเนินการตามข้อเสนอของ 4 กระทรวงหลักที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี คือ การไม่อนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ การขอประทานบัตรและการขอต่ออายุประทานบัตร โดยกระทรวงฯ จะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

“ผมขอยืนยันว่ากระทรวงฯ ยังคงดำเนินการตามมติของ 4 กระทรวงฯ ที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในการนำเสนอโดยวิดีทัศน์และการรายงานข้อเท็จจริงโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้รายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยไม่มีการนำเสนอเอกสารต่อคณะรัฐมนตรี โดยจากนี้ทุกอย่างยังคงเดิมตามมติร่วมกันของ 4 กระทรวงและเป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมายกำหนด ซึ่งการดำเนินการของกระทรวงฯ ได้มีการต่อใบอนุญาตกิจการโลหกรรมเป็นเวลา 7 เดือนไปแล้ว และกำลังดำเนินการตามกฎหมายในการไม่อนุญาตสัมปทานทำเหมืองที่บริษัทขอต่ออายุใบอนุญาต” นายสมชายกล่าว

ทั้งนี้ มติที่ประชุมของ 4 กระทรวงฯ คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรม มีดังนี้ คือ 1. ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตร 2. ในกรณีของบริษัท อัคราฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัท อัคราฯ เร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต 3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัท อัคราฯ ดังนี้

- กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่
- กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
- กระทรวงแรงงาน ดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ

ส่วนเหมืองทองชาตรีของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ใน จ.พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ มีพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ใบอนุญาตประกอบโลหกรรมจะหมดลงในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ซึ่ง 4 กระทรวงมีมติให้ขยายไปถึง 31 ธันวาคม 2559 เพื่อให้พนักงานและผู้รับเหมารวมกว่า 1,000 คนหางานใหม่ได้ทัน และเปิดทางให้บริษัทผลิตแร่ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น