นายสมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ยางพาราล้นตลาดในประเทศที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการเพิ่มมูลค่ายางและผลิตภัณฑ์ยาง ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล โดยตั้งแต่ปี 2558 สามารถพัฒนาสถานประกอบการและวิสาหกิจชุมชนกว่า 480 ราย ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ กิจกรรมพัฒนาสถานประกอบการและบุคลากร รวมถึงสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมยาง ซึ่งจากการส่งเสริมดังกล่าวนอกจากช่วยนำยางมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วยังสามารถสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ให้รองรับความต้องการของตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์กาวน้ำยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์แผ่นยางปูสนามเด็กเล่น เป็นต้น
สำหรับในปีนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในภาคใต้ โดยตั้งเป้าพัฒนาสถานประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอีกกว่า 500 ราย รวมถึงมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการผลิต ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ อาทิ สีเคลือบโลหะกันสนิมจากน้ำยางข้น และพื้นสนามแบดมินตันจากแผ่นยางรมควันสูตรใหม่ที่มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และลดการพึ่งพาการส่งออกน้ำยางเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายการดำเนินโครงการไปสู่พื้นที่ที่มีศักยภาพในการผลิตยางพาราเพิ่มเติมในปี 2560 โดยเล็งพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นแหล่งที่สามารถผลิตยางต่อปีรวมกว่า 6-7 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดยางพาราในภาพรวมได้
สำหรับในปีนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในภาคใต้ โดยตั้งเป้าพัฒนาสถานประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอีกกว่า 500 ราย รวมถึงมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการผลิต ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ อาทิ สีเคลือบโลหะกันสนิมจากน้ำยางข้น และพื้นสนามแบดมินตันจากแผ่นยางรมควันสูตรใหม่ที่มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และลดการพึ่งพาการส่งออกน้ำยางเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายการดำเนินโครงการไปสู่พื้นที่ที่มีศักยภาพในการผลิตยางพาราเพิ่มเติมในปี 2560 โดยเล็งพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นแหล่งที่สามารถผลิตยางต่อปีรวมกว่า 6-7 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดยางพาราในภาพรวมได้
