ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดรวม “โชว์บิซคอนเสิร์ต” แข่งรุนแรง ระดมจัดมากกว่า 100 งานต่อปี แต่คอนเทนต์ซ้ำๆ ชี้ผู้จัดต้องปรับตัวหาคอนเทนต์ใหม่นำเสนอ “ซีไอ” ฉีกแนว จัดคอนเสิร์ตท่ามกลางสายฝนครั้งแรก พร้อมสยายปีกเออีซีสร้างรายได้
นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบิหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือซีไอ เปิดเผยว่า ตลาดรวมการจัดโชว์บิซ หรือคอนเสิร์ตอีเวนต์ มีการแข่งขันที่สูงมากจากมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยแล้วจะเติบโตประมาณ 10% ซึ่งปีที่แล้ว 2558 ตลาดรวมมีประมาณ 150 โชว์ ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 100 โชว์เช่นกันที่เป็นแนวมิวสิก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณงานโชว์บิซจะมีมากก็ตามแต่ก็ยังขาดการพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่แหวกแนวแตกต่างจากตลาด แต่ส่วนใหญ่จะคล้ายกันจึงทำให้ผู้จัดแต่ละรายพยายามที่จะปรับตัวปรับกลยุทธ์ให้มากที่สุดเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจเองก็ไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ บริษัทฯ เองก็ปรับตัว โดยเฉพาะการจัดงานซึ่งปีที่แล้ว 2558 มีการจัด 2 โชว์ ปี 2559 จะเพิ่มเป็น 7 คอนเทนต์ที่ดำเนินการเอง ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมีมากกว่า 12 งานหรือเฉลี่ยทุกเดือนจะมี 1 งาน ส่วนวิธีการแนวทางการนำเสนอคอนเทนต์ก็มีการปรับให้แตกต่างมากขึ้น เช่น ปีนี้จะมีการจัดซีซันออฟเลิฟ ซอง มิวสิก เฟสติวัล ช่วงฤดูฝนที่เขาใหญ่ เป็นครั้งแรกของบริษัทฯ และครั้งแรกของตลาดรวมก็ว่าได้ที่มีการจัดโชว์บิซคอนเสิร์ตในหน้าฝน เพราะที่ผ่านมาตลาดรวมจะแข่งขันกันจัดในช่วงสิ้นปีช่วงฤดูหนาวเป็นหลัก
ส่วนปีหน้าบริษัทฯ จะมีการเปิดตัว 3 โปรเจกต์ใหม่ เช่น การนำเข้ามิวสิกอีเวนต์แนวอีดีเอ็ม เป็นระดับเวิลด์คลาส อินดอร์ โปรดักชัน จากยุโรป และถือลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียวในเอเชีย ทรานส์มิชชันเอเชีย 2017 อีกทั้งจะมีการแตกไลน์ธุรกิจโชว์บิซเพิ่มเติม ทั้งการสร้างใหม่และนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อใหค้รอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศด้วยเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตเพราะในไทยแข่งขันกันสูงและการหาสปอนเซอร์ก็ยากมากขึ้น เพราะเจ้าของสินค้าเองต้องการที่จะเป็นสปอนเซอร์เพื่อสร้างยอดขายมากกว่าการสร้างแบรนด์ เบื้องต้นมองไปที่ตลาดเออีซีก่อน โดยสนประเทศลาวกับเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางการลงทุนร่วมกันกับท้องถิ่น
ทั้งนี้ งานของซีไอ เช่น เสม็ดอินเลิฟมิวสิคัล, งานซีซันออฟเลิฟซอง มิวสิกเฟสติวัล ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และงานในไตรมาสสามและสี่ปี 2559 ที่จะเกิดขึ้นเช่น คือ เสม็ดอินเลิฟครั้งที่ 7, งานซิงกิ้งอินเดอะเรน (ซีซันออฟเลิฟซอง ครั้งที่ 6.1), งานปรากฏการณ์เฉลียง, งานRAVE PARTY เดอะซีซันออฟเลิฟซองครั้งที่ 7, งาน คราฟ์แอนด์โรลคาร์นิวัล เป็นต้น
นายญาณกรกล่าว่า ปีนีตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 350 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 200 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ 45% จากกลุ่มบริการและธุรกิจดิจิตอล 55% ซึ่งมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาด MAI ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2560
นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบิหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือซีไอ เปิดเผยว่า ตลาดรวมการจัดโชว์บิซ หรือคอนเสิร์ตอีเวนต์ มีการแข่งขันที่สูงมากจากมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยแล้วจะเติบโตประมาณ 10% ซึ่งปีที่แล้ว 2558 ตลาดรวมมีประมาณ 150 โชว์ ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 100 โชว์เช่นกันที่เป็นแนวมิวสิก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณงานโชว์บิซจะมีมากก็ตามแต่ก็ยังขาดการพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่แหวกแนวแตกต่างจากตลาด แต่ส่วนใหญ่จะคล้ายกันจึงทำให้ผู้จัดแต่ละรายพยายามที่จะปรับตัวปรับกลยุทธ์ให้มากที่สุดเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจเองก็ไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ บริษัทฯ เองก็ปรับตัว โดยเฉพาะการจัดงานซึ่งปีที่แล้ว 2558 มีการจัด 2 โชว์ ปี 2559 จะเพิ่มเป็น 7 คอนเทนต์ที่ดำเนินการเอง ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมีมากกว่า 12 งานหรือเฉลี่ยทุกเดือนจะมี 1 งาน ส่วนวิธีการแนวทางการนำเสนอคอนเทนต์ก็มีการปรับให้แตกต่างมากขึ้น เช่น ปีนี้จะมีการจัดซีซันออฟเลิฟ ซอง มิวสิก เฟสติวัล ช่วงฤดูฝนที่เขาใหญ่ เป็นครั้งแรกของบริษัทฯ และครั้งแรกของตลาดรวมก็ว่าได้ที่มีการจัดโชว์บิซคอนเสิร์ตในหน้าฝน เพราะที่ผ่านมาตลาดรวมจะแข่งขันกันจัดในช่วงสิ้นปีช่วงฤดูหนาวเป็นหลัก
ส่วนปีหน้าบริษัทฯ จะมีการเปิดตัว 3 โปรเจกต์ใหม่ เช่น การนำเข้ามิวสิกอีเวนต์แนวอีดีเอ็ม เป็นระดับเวิลด์คลาส อินดอร์ โปรดักชัน จากยุโรป และถือลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียวในเอเชีย ทรานส์มิชชันเอเชีย 2017 อีกทั้งจะมีการแตกไลน์ธุรกิจโชว์บิซเพิ่มเติม ทั้งการสร้างใหม่และนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อใหค้รอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศด้วยเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตเพราะในไทยแข่งขันกันสูงและการหาสปอนเซอร์ก็ยากมากขึ้น เพราะเจ้าของสินค้าเองต้องการที่จะเป็นสปอนเซอร์เพื่อสร้างยอดขายมากกว่าการสร้างแบรนด์ เบื้องต้นมองไปที่ตลาดเออีซีก่อน โดยสนประเทศลาวกับเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางการลงทุนร่วมกันกับท้องถิ่น
ทั้งนี้ งานของซีไอ เช่น เสม็ดอินเลิฟมิวสิคัล, งานซีซันออฟเลิฟซอง มิวสิกเฟสติวัล ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และงานในไตรมาสสามและสี่ปี 2559 ที่จะเกิดขึ้นเช่น คือ เสม็ดอินเลิฟครั้งที่ 7, งานซิงกิ้งอินเดอะเรน (ซีซันออฟเลิฟซอง ครั้งที่ 6.1), งานปรากฏการณ์เฉลียง, งานRAVE PARTY เดอะซีซันออฟเลิฟซองครั้งที่ 7, งาน คราฟ์แอนด์โรลคาร์นิวัล เป็นต้น
นายญาณกรกล่าว่า ปีนีตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 350 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 200 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ 45% จากกลุ่มบริการและธุรกิจดิจิตอล 55% ซึ่งมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาด MAI ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2560