“เบสท์รินกรุ๊ป” ชนะประมูลซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน หลังเคาะราคาต่ำกว่าราคากลาง 632 ล้าน ส่วนกลุ่ม “ช ทวี” คว้าแห้ว ผอ.ขสมก. ชงบอร์ด 27 ก.ค.นี้คาดเซ็นสัญญา ในต้นส.ค. รับมอบรถใน 90 วัน พร้อมเดินหน้าเปิดประมูลปรับปรุงรถร้อน 501 คัน ในสัปดาห์นี้
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาจำนวน 489 คัน ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ็อกชัน) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2559 โดยกำหนดราคากลางที่ 4,021.71 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 3,389.71 ล้านบาท โดยเสนอต่ำกว่าราคากลาง 632 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นผลอย่างไม่เป็นทางการ โดยหลังจากนี้จะเรียกเบสท์ริน กรุ๊ป มาเจรจารายละเอียด และหากไม่มีข้อผิดพลาดจะนำผลการประมูลเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 27 ก.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ในต้นเดือน ส.ค. และส่งมอบรถภายใน 90 วัน หลังลงนามสัญญา
สำหรับการประมูลซื้อรถเมล์ NGV 489 คันนี้ มีผู้มีสิทธิ์เสนอราคา 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า เจวีซีซี (มีบมจ.ช.ทวี (CHO) เป็นแกนนำ), บริษัท เบสท์ริน กรู๊ป จำกัด โดยกิจการร่วมค้าเจวีซีซีซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลก่อนหน้านี้ ที่ได้มีการยกเลิกไปนั้นในครั้งนี้ กิจการร่วมค้าเจวีซีซีได้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเช่นกันแต่ยังสูงกว่าเบสท์ริน กรุ๊ป นอกจากนี้ คดีที่กิจการร่วมค้าเจวีซีซีเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ขสมก.ต่อศาลปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีที่ ขสมก.ยกเลิกการประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันในครั้งก่อนนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล
สำหรับ โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาจำนวน จำนวน 489 คัน วงเงินรวม 4,021,710,819.50 บาท ประกอบด้วยค่าซื้อรถ 1,735,550,000 บาท (คันละ 3,549,182 บาท) ค่าซ่อมบำรุง 10 ปี รวม 2,286,160,819.50 บาท โดยปีที่ 1-ปีที่ 5 ค่าซ่อมเฉลี่ยไม่เกิน 925.91 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งสิ้น 826,305,231.75 บาท ปีที่6- ปีที่ 10 ค่าซ่อมเฉลี่ยไม่เกิน 1,635.83 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งสิ้น 1,459,855,587.75 บาท
นายสุระชัยกล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ ขสมก.จะประกาศิญชวนประกวดราคาการปรับปรุงซ่อมแซมรถเก่า (overhaul) ในส่วนของรถร้อนจำนวน 501 คัน ตามโครงการจะมีการปรับปรุงรถเก่าจำนวน672 คัน ได้แก่ รถโดยสารธรรมดายี่ห้อมิตซูบิชิ จำนวน 501 คัน รถโดยสารปรับอากาศยี่ห้อเบนซ์ จำนวน 119 คัน และรถโดยสารปรับอากาศยี่ห้อแดวู จำนวน 52 คัน โดยมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นที่ปรึกษา