xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเซาท์อีสต์เอเชียพุ่ง อินเตอร์แบรนด์แห่เพิ่มงบตลาด 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล (กลาง) ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้า “เพาเวอร์ มอลล์” บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - เซาท์อีสต์เอเชียความหวังตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลก แบรนด์นอกโฟกัสตลาดไทยพร้อมเพิ่มงบตลาดอีก 20-30% กระตุ้นกำลังซื้อเต็มสูบ รับตลาดครึ่งปีหลัง คาดดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่ง 5% สู่ 20,300 ล้านบาท “เพาเวอร์มอลล์” อัดงบเพิ่ม 20% ด้วยเม็ดเงิน 300 ล้านบาท ลุย 8 เดือนหลัง พร้อมชูงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” กระตุ้นกำลังซื้อกลางปีนี้ คาดเม็ดเงินสะพัด 385 ล้านบาท ส่งทั้งปีโต 7% ทะลุ 10,200 ล้านบาท

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้า “เพาเวอร์ มอลล์” บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 22,700 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่าเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น เป็นการเติบโตจากเครื่องปรับอากาศที่โตขึ้น 25% เป็นหลัก ส่วนทีวีติดลบ10% และพอมาถึงช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโรช่วยให้ตลาดทีวีกลับมาโตได้ 10% จนถึงปัจจุบัน และทั้งปีน่าจะทรงตัวเท่าปีก่อน ทั้งนี้ มองว่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งปีน่าจะโตได้ไม่เกิน 5% โดยในครึ่งปีหลังนี้จะต้องมีการกระตุ้นตลาดด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายจึงจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ในช่วงครึ่งปีหลังทิศทางมีแนวโน้มที่ดีมาจาก 2 ปัจจัยคือ การกระตุ้นตลาดของแต่ละแบรนด์ที่จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย 2.ถึงแม้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในระดับโลกจะไม่ดี โดยในสหรัฐอเมริกาและยุโรปทรงตัว แต่เอเชียกลับเป็นโอกาสในการเติบโตโดยเฉพาะเซาต์อีสต์เอเชียอย่างในในไทยและเวียดนามยังมีโอกาสที่จะโตได้ ทำให้แต่ละแบรนด์โฟกัสการทำตลาดในไทยมากขึ้นพร้อมเพิ่มงบลงทุนอีก 20-30% ของงบการตลาดสำหรับทำตลาดในครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้าใหม่ รูปแบบการทำตลาด ลงทุนปรับพื้นที่การขายที่น่าสนใจมากขึ้น โดยในส่วนของอีเวนต์กีฬาอย่างโอลิมปิกไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก ส่วนการแข่งขันฟุตบอลยูโรมีผลเฉพาะกับตลาดทีวีเท่านั้น

“ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า 22,700 ล้านบาท ปีนี้น่าจะโตได้ไม่เกิน 5% ถือเป็นการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนที่โตเพียง 4% และเมื่อเทียบกับจีดีพีของประเทศที่คาดโตเพียง 3% จึงยังเป็นปีที่ดีของเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมาถือว่าไม่ดี เพราะ 4 ปีก่อนเศรษฐกิจยังดีอยู่ แต่ปีนี้เศรษฐกิจโลกไม่ดี ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกก็ไม่ดีด้วย แต่โอกาสของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังมีอยู่ เพราะกำลังซื้อยังมีเงินเพียงแต่ต้องกระตุ้นกำลังซื้อซึ่งแนวโน้มในครึ่งปีหลังเชื่อว่าแต่ละแบรนด์พร้อมใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้น จากปกติเฉลี่ยแต่ละแบรนด์ใช้ 10% น่าจะขยับเพิ่มเป็น 15%”

สำหรับ “เพาเวอร์ มอลล์” รายได้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาโตขึ้น 4% โดยยอดขายทีวีติดลบ 6% ดีกว่าภาพรวมตลาดที่ติดลบ 10% และในช่วง 8 เดือนหลังนี้ บริษัทฯ พร้อมเพิ่มงบการตลาดอีก 20-30% คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 300 ล้านบาท สำหรับกระตุ้นตลาด ล่าสุดพร้อมใช้งบ 50 ล้านบาท สำหรับจัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส ครั้งที่ 9” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-17 ก.ค.ศกนี้ ณ 2 พื้นที่หลักคือ สยามพารากอน และดิ เอ็มโพเรียม รวมพื้นที่จัดงานทั้งหมด 8,000 ตารางเมตร และมีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าร่วมกว่า 200 แบรนด์ นำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่และโปรโมชันส่งเสริมการขายในงานพร้อมสิทธิพิเศษมากมาก คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 385-400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดงานครั้งก่อนที่ปิดยอดขายไป 370 ล้านบาท

“เพาเวอร์ มอลล์ยังพร้อมใช้งบอีก 120 ล้านบาท สำหรับรีโนเวตและปรับพื้นที่ 2 สาขาคือ สาขาโคราช 70 ล้านบาท และหัวหินอีก 50 ล้านบาท มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายตลอดปีให้มีการเติบโตได้ 7% คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,200 ล้านบาท แบ่งเป็น เอวี 30% เอชเอ 30% และไอที/อื่นๆ อีก 40%” นายจักรกฤษณ์ กล่าวในที่สุด

ด้านนายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า แนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครึ่งปีหลังนี้เชื่อว่ามีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนสำคัญมาจากสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากนโยบายภาพรัฐที่เริ่มเห็นผลกระตุ้นกำลังซื้อให้เริ่มใช้เม็ดเงินมากขึ้น การลงทุนด้านสาธารณูปโภคเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ภัยแล้งเริ่มบรรเทาลง ฝนเริ่มตก ราคาพืชผลดีขึ้น กำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มกลับมา

ในส่วนของ “อีเลคโทรลักซ์” เชื่อว่าทั้งปีน่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และดีกว่าปีก่อน หลังจากที่ครึ่งปีแรกมีรายได้โต 2 หลักตามแผน ส่วนสำคัญมาจากการทำตลาดต่อเนื่องและการนำเสนอสินค้าที่เป็นแบรนด์ยุโรปซึ่งลูกค้าให้ความมั่นใจในนวัตกรรมและดีไซน์ที่เปลี่ยนใหม่รับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงพรีเมี่ยม ทำให้ยอดขายในทุกสินค้ามีการเติบโตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้ามีการเติบโต 2 หลัก และเป็นผู้นำตลาดในเซกเมนต์ฝาหน้าด้วยส่วนแบ่งกว่า 42% ส่วนเครื่องครัวยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะไมโครเวฟขยับส่วนแบ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตลาดด้วยแชร์ 20% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากที่อยู่อันดับท้าย ขณะที่ตู้เย็นเติบโต 2 หลัก จากการเปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์ และประหยัดพลังงาน และเครื่องปรับอากาศเติบโต 2 หลัก



กำลังโหลดความคิดเห็น