“พาณิชย์” จับมือเอ็กซิมแบงก์ลงนามเอ็มโอยูเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เอกชนไทยในการออกไปลงทุนตลาดซีแอลเอ็มวี พร้อมช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายใหม่ในการขยายตลาดส่งออก
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการทำงานร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ (EXIM Bank) โดยจะมีการกำหนดแผนดำเนินงาน (แอ็กชันแพลน) ที่ชัดเจนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการพัฒนาและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการด้านการส่งเสริมการตลาด การขยายช่องทางการค้า การให้บริการทางการเงิน ด้านสินเชื่อและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งด้านการค้าและการลงทุนอย่างครบวงจร เพื่อช่วยขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งต่อยอดให้ออกไปลงทุนประกอบธุรกิจในต่างประเทศตามแนวทางของรัฐบาล
สำหรับบันทึกความตกลงที่ลงนามร่วมกันครอบคลุมความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้แก่ การผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ (Outward Investment) ซึ่งจะลดความเสี่ยงและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยธนาคารมีบริการประกันความเสี่ยงให้กับการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มเมกะโปรเจ็กต์ที่จะไปลงทุนในตลาดซีแอลเอ็มวี เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและเป็นตลาดเป้าหมายของกรมฯ และจะขยายการให้บริการดังกล่าวในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่สนใจจะขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้จะช่วยเหลือผู้ประกอบการลดความเสี่ยงจากการส่งออก ด้วยการอำนวยความสะดวกและเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการประกันการส่งออก โดยธนาคารยินดีที่จะไปร่วมให้บริการในงานแสดงสินค้าในต่างประเทศของกรม เช่น งานท็อปไทย แบรนด์ และจะปรับนโยบายให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอ็มเอ็มอี) จำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกรายใหม่ ซึ่งกำหนดวงเงินรับประกันต่อรายไม่เกิน 5 แสนบาท และลดความซับซ้อนในการพิจารณา ตลอดจนคิดค่าธรรมเนียมในอัตราพิเศษ
ส่วนความร่วมมือในด้านข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างกัน เช่น การเชื่อมโยงให้บริการทางการเงินรูปแบบต่างๆ ของ EXIM Bank กับ Digital Platform ของกรมฯ ได้แก่ เว็บไซต์ Thaitrade.com และ แอปพลิเคชั่น DITP Connect เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ณ จุดเดียว โดยผู้ประกอบการจะสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมของกรม ขอสินเชื่อ และประกันความเสี่ยงได้อย่างง่ายและสะดวกรวดเร็ว
พร้อมกันนี้จะบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันเพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและการให้บริการต่างๆ ผ่านช่องทางสื่อสารของทั้งสองฝ่าย การร่วมออกบูทในกิจกรรมต่างๆ ที่กรมฯ จัด และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงลึกในเวทีการสัมมนา อบรมต่างๆ เป็นต้น พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างแบรนด์และผู้ประกอบการส่งออกดีเด่น พิจารณาให้สิทธิประโยชน์ทางการเงินเป็นพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่มีแบรนด์สินค้าได้มาตรฐานและได้รับตราสัญลักษณ์จากกรมฯ อาทิ Thailand Trust Mark / PM Award / Demark
“เชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการในการส่งออกและขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคซีแอลเอ็มวีเพิ่มมากขึ้น” นางมาลีกล่าว