xs
xsm
sm
md
lg

“เฮลท์แอนด์บิวตี้ รีเทล” แข่งเดือด เชนใหญ่เดินหน้ารุกหนัก ปูพรมสาขา-ออนไลน์-สินค้าใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพิรศุษม์ ปลื้มปิติชัยกุล (ขวา) กรรมการผู้จัดการ และ นายนภัทร โภคาสัมฤทธิ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คลับวาไรตี้ จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดเชนค้าปลีกร้าน “เฮลท์แอนด์บิวตี้” แข่งเดือด ขาใหญ่ดาหน้าชิงตลาด “บิวตี้คลับ” ปั้น 3 โมเดลลุย ขณะที่ “วัตสัน” วางแผน 5 ปีทุ่ม 2 พันล้านบาท ปูพรมเพิ่มเฉลี่ยปีละ 50 แห่ง ปี 59 โหมหนักทุ่ม 480 ล้านบาท จัดหนักช่องทางออนไลน์ เพิ่มสินค้าโอนแบรนด์ ด้าน BEAUTY เผยยอดขายโตทุกช่องทาง เดินหน้าขยายสาขาในประเทศ-ต่างแดน พร้อมเน้นทำตลาดออนไลน์เต็มสูบ ส่วน “มัทสึโมโตะ คิโยชิ” ปักหมุดรุกตลาดประเทศไทย วางเป้าสิ้นปีนี้เปิดครบ 8 สาขา และทะยานสู่ 100 สาขาภายใน 5 ปี

นายพิรศุษม์ ปลื้มปิติชัยกุล กรรมการผู้จัดการ และ นายนภัทร โภคาสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คลับวาไรตี้ จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสุขภาพและความงามแบรนด์ “Beauty Club” กล่าวว่า บริษัทฯ เริ่มต้นดำเนินธุรกิจจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายอาหารเสริมยี่ห้อ New Way จนได้เป็นตัวแทนหลักในการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยโดยมีฐานสมาชิกกว่า 3 แสนคน จึงเริ่มมีแนวคิดในการหาสินค้าอาหารเสริม เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ น้ำหอมแบรนด์ดัง หรือแม้แต่เมกอัพที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในปัจจุบันจากทั่วทุกมุมโลกมาจำหน่ายให้ฐานสมาชิกผ่านร้าน “Beauty Club”

*** “Beauty Club” ส่ง 3 โมเดลคุมตลาด ***
“Beauty Club” มี 3 รูปแบบ คือ 1. Beauty Club Grand พื้นที่ 150 ตร.ม.ขึ้นไป ทำเลที่เปิดโมเดลนี้คือ เมเจอร์ รัชโยธิน ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน โดยมีสินค้าความงามกว่า 8 พันรายการ งบลงทุน 18-20 ล้านบาท 2. Beauty Club House พื้นที่ 50-100 ตร.ม. มีแพลนที่จะรุกหัวเมือง เช่น คลังพลาซ่า โคราช เน้นสินค้าขายดีของแต่ละแบรนด์ รวมประมาณ 1.5 พันรายการ ใช้งบลงทุนประมาณ 4-5 ล้านบาท 3. Beauty Club Corner พื้นที่เคาน์เตอร์ตามห้าง ใช้พื้นที่น้อยที่สุด เน้นสินค้าที่ขายดีที่สุดจริงๆ ไม่เกิน 100 รายการ ในกลุ่มของอาหารเสริม และเครื่องสำอาง สกินแคร์ เท่านั้น เปิดแล้ว 17 สาขา

“ปีนี้เราจะขยายส่วนของ Beauty Club Corner 5 สาขาหลักที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดให้เป็น Beauty Club Grand ใช้งบขยายสาขาประมาณ 18-20 ล้านบาทต่อสาขา ในทำเลที่ตั้งที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราคือนักศึกษาและกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี โดยเลือกเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าเครือเมเจอร์ทั้งหมด เริ่มต้นที่สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน ที่เปิดไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และสาขาเมเจอร์ รังสิต ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา”
รูปแบบร้าน Beauty Club Grand
ปัจจุบันบริษัทฯ มี Beauty Club Corner ทั้งหมด 19 สาขา ตอนนี้ผ่านการคัดเลือกในด้านของทำเลอยู่ในหัวเมืองใหญ่ เช่น เมเจอร์ทั้งหมด, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล พระราม 2 เป็นต้น เน้นการเดินทางจุดต่อรถ จุดเดินทางแบบสะดวกสบาย และสถานที่จอดรถ โดยการขยายสาขาเมเจอร์ รังสิต จะปรับเปลี่ยนจาก Beauty Club Corner เป็น Beauty Club Grand แม้จะลงทุนมาก แต่ยังเชื่อเรื่องกำลังซื้อว่าไม่ได้น้อยลง โดยเราเสริมกลยุทธ์ในแง่ของการตลาดด้วยการส่งโปรโมชันและแคมเปญดีๆ เพื่อกระตุ้นตลาดและยอดขายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วด้วยเช่นกัน

เมื่อแยกสัดส่วนการตลาด ร้าน Beauty Club จัดอยู่ในกลุ่มสินค้า Beauty Store ซึ่งมี Watson, Booths, Stardust, Beauty Market และ Eveandboy เมื่อแยกกลุ่มสินค้าหลักๆ จะเป็นสินค้าขายดีเป็นที่ต้องการของตลาดเจาะทุกกลุ่มลูกค้าและกำลังซื้อทุกระดับ แต่ในส่วนของเรา Beauty Club เน้นกลุ่มลูกค้าระดับ B ขึ้นไป เน้นการนำเข้าสินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศและการทำเคาน์เตอร์แบรนด์ เพื่อให้ตรงใจและมีมากพอต่อความต้องการของเทรนด์การตลาดร้านความงามสะดวกซื้อ
นายร็อด เร้าท์ลี่ย์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน ประเทศไทย จำกัด
*** “วัตสัน” รุกขยายออนไลน์ ***
นายร็อด เร้าท์ลี่ย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารร้านสุขภาพและความงาม “วัตสัน” เปิดเผยว่า ปี 2559 จะลงทุนประมาณ 480 ล้านบาท แยกเป็น 400 ล้านบาทเปิดสาขาใหม่รวม 50-55 สาขา จากสิ้นปีที่แล้วมี 375 สาขา ส่วนอีก 80 ล้านบาทเป็นงบการตลาด ตั้งรายได้รวมเป้าปีนี้เติบโต 2 หลักเท่าปีที่แล้ว ขณะที่แผน 5 ปีจากนี้จะลงทุนรวม 2 พันล้านบาทในการขยายสาขา

นอกจากนั้นยังจะลงทุนพัฒนาความแข็งแกร่งทางด้านระบบออนไลน์เพิ่มอีก หลังจากปีที่แล้วใช้ไป 50 ล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบรองรับการขายผ่านออนไลน์ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่แต่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตอย่างดี โดยปัจจุบันมีสินค้าขายผ่านออนไลน์ประมาณ 1 พันเอสเคยู และจะเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง
ร้านวัตสัน
พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า “วัตสัน” กลุ่ม GEN Y ที่มาจากกลุ่มตัวอย่าง 5 พันคนจากลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิกทั้งผู้หญิงและผู้ชายของ “วัตสัน” พบว่า ผู้หญิงจำนวน 72% ชอปปิ้งผ่านออนไลน์ ขณะที่ผู้ชายมีประมาณ 69%, ผู้หญิงใช้เฟซบุ๊กหาข้อมูล 58.5% มากกว่าผู้ชาย, ผู้หญิงนิยมโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ 50.2%, ผู้ชาย 67.2% จ่ายผ่านบัตรเครดิต, ผู้ชาย 68.3% ใช้เว็บไซต์หาข้อมูลมากที่สุด, ส่วน 99% ของทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีโมบายล์แอปพลิเคชันของร้านค้าปลีกอย่างน้อย 1 แอปพลิเคชัน

“ปัจจุบันเรามีผู้ติดตามในเฟซบุ๊กประมาณ 1.5 ล้านราย จึงสามารถใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าได้ด้วย ผนวกกับมีสมาชิกมากกว่า 3 ล้านราย ซึ่งสร้างยอดขายรวมกว่า 50% จึงจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถทำลอยัลตีโปรแกรมร่วมกันเพื่อทำตลาดได้ด้วย” นายร็อดกล่าว
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)
*** “บิวตี้ บุฟเฟ่ต์” รุกทั้งไทย-ต่างประเทศ ***
นายแพทย์ สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว แบรนด์ “BEAUTY BUFFET”, “BEAUTY COTTAGE” และ “BEAUTY MARKET” เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องสำอางปี 2559 ยังคงเติบโตและไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ซบเซาลง โดยคาดว่าปีนี้ตลาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7-8% ขณะที่ธุรกิจของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% และมียอดขายรวม 2.1 พันล้านบาท มีกำไรไม่ต่ำกว่า 20% จากการขยายสาขาต่อเนื่อง การเปิดตัวสินค้าใหม่ และการขยายช่องทางออนไลน์

แผนธุรกิจปีนี้ยังคงขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันมี 354 สาขา คาดว่าสิ้นปี 2559 จะมีรวม 410 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 360 สาขา และต่างประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม รวม 50 สาขา ล่าสุดแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียจากเดิมที่มีการจำหน่ายแบบโฮลเซล

ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2559 มีรายได้รวม 529.91 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 364.47 ล้านบาท จำนวน 165.44 ล้านบาท หรือเพิ่ม 45.39% และมีกำไรสุทธิ 129.22 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.00 ล้านบาท จำนวน 53.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.02% และยอดขายจากสาขาเดิมเติบโต 26.35%

ในส่วนของช่องทางอี-คอมเมิร์ซในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่องสูงกว่า 70% ส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BEAUTY ผ่านร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ในปัจจุบันรวมจำนวน 900 สาขา และมีแผนขยายเพิ่มเติมร้าน “เซเว่น-อีเลฟเว่น” อีกทั้งหมดกว่า 8 พันสาขา
นายจุนอิจิ ทาเทโนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร้าน “มัทสึโมโตะ คิโยชิ”
*** “มัทสึโมโตะ คิโยชิ” เร่งเครื่องขยายสาขา ***
นายจุนอิจิ ทาเทโนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร้าน “มัทสึโมโตะ คิโยชิ” เปิดเผยว่า พฤติกรรมคนไทยให้ความสำคัญต่อความสวยความงามเป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับความงามในเมืองไทยยังคงขยายตัวท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง บริษัทฯ จึงเข้ามารุกตลาดในประเทศไทยด้วยการร่วมทุนกับทางกลุ่มเซ็นทรัล โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ปัจจุบันมี 4 สาขา ที่ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ล่าสุดเปิดที่ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ พื้นที่ 230. ตร.ม. งบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2559 จะมีรวมเป็น 8 สาขา และตั้งเป้าเปิดให้ครบ 100 สาขาภายใน 5 ปี

“มัทสึโมโตะ คิโยชิ” เป็นศูนย์รวมสินค้าสำหรับคนรักสุขภาพและความงามที่มีให้เลือกสรรแบบครบทุกหมวดความต้องการกว่า 1 หมื่นรายการส่งตรงจากญี่ปุ่นและจากทั่วทุกมุมโลก แบ่งออกเป็นกลุ่มสินค้าบิวตี้ กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ กลุ่มสินค้าอาหาร และยังได้ออกโปรดักต์ไลน์ใหม่ๆ ด้วยการเปิดตัว Commodity Product นำร่องที่สาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายตัวอย่างสินค้าต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชันฉลองการเปิดสาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ ลดสูงสุด 30% สินค้าซื้อ 1 แถม 1 และสินค้าราคาพิเศษอีกมาก และร่วมมือกับบัตร “เดอะวัน การ์ด” ทำโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้าสมาชิก และยังมีแผนจะพัฒนาบัตรสะสมคะแนน หรือแสตมป์การ์ดที่สามารถใช้ได้ทั้งที่ไทยและญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า



กำลังโหลดความคิดเห็น